แบตเตอรี่ ถือได้ว่าเป็นชีวิตของแล็ปท็อป เพราะหากแบตของคุณสิ้นชีพ คุณก็หมดอิสระในการพกพาคอมคู่ใจไปทำงาน ซึ่งแบตเตอรี่ที่ยังทรงพลังอยู่ต้องสามารถอยู่ได้ 3 ชั่วโมงเป็นอย่างต่ำ หากเหลือเพียง 1-2 ชั่วโมงแสดงว่าแบตของคุณเริ่มเสื่อมแล้ว ก่อนที่จะเกิดปัญหานี้เรามาหาทางป้องกัน โดยการใช้งานอย่างถูกต้องกัน
ใช้งานถูกวิธีลดปัญหาแบตหมดเร็ว แบตเสื่อมไว
- หลีกเลี่ยงการใช้งานในพื้นที่ๆ มีความร้อนหรือความชื้นสูง ที่อาจทำให้แบตเตอรี่เกิดความร้อนสะสมสูง เช่น ในรถที่จอดกลางแดด หรือใกล้บริเวณที่มีโอกาสสัมผัสกับละอองน้ำ เป็นต้น เพราะอาจทำให้แบตฯ ทำงานผิดปกติจากออกไซด์ที่ขั้วแบตฯ รวมถึงลดประสิทธิภาพในการเก็บประจุ ซึ่งอาจทำให้แบตเตอรี่เสื่อมได้
- ลดการโหลดพลังงานของแบตเตอรี่ หมายถึงการลดการต่อพ่วงหรือใช้พลังงานจากแบตฯ อย่างสิ้นเปลืองเกินไป ไม่ว่าจะเป็นการต่อพ่วงอุปกรณ์จำนวนมากพร้อมๆ กันหรือการเปิดการเชื่อมต่อระบบเครือข่าย รวมถึงการปรับความสว่างของหน้าจอให้เหมาะสม เพื่อช่วยลดการใช้พลังงานของแบตฯ ลงให้ได้มากที่สุดและลดการเกิดความร้อนนั่นเอง
- บำรุงรักษาโน๊ตบุ๊คอย่างถูกวิธี เช่น ป้องกันการตกกระแทก เก็บในที่สะอาดฝุ่นไม่เยอะ และไม่ควรใช้งานทีละนานๆ ข้ามวันข้ามคืน ถ้าหากโน้ตบุ๊กของท่านร้อนไว หรือระบายความร้อนได้ไม่ดี ให้ใช้ Cooler ช่วย
- ไม่ควรใช้แบตเตอรี่ให้หมดเกลี้ยงจนถึง 0% เพราะการชาร์จจาก 0% นั้น จะต้องใช้แรงดันไฟมากกว่าปกติ ทำให้แบตเตอรี่ร้อน และเสื่อมได้ไวกว่าปกติ ทางที่ดีควรเหลือแบตเตอรี่ไว้อย่างน้อย 20% ขึ้นไป
ยืดอายุ คืนความสดใหม่ให้แบตด้วย Calibrate Battery
วิธีที่ให้ทำแบตฯ ได้คลายประจุออกบ้าง ซึ่งจะทำให้การจัดเก็บประจุในครั้งต่อไปทำได้ดียิ่งขึ้น เหมือนเป็นการทำความสะอาดให้กับตัวเก็บประจุของแบตฯ นั่นเอง โดยการทำ Calibrate Battery ที่เรียกได้ว่าเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด และไม่ต้องลงทุนเลยครับ ถึงแม้ว่าวิธีนี้จะไม่สามารถคืนสภาพแบตเตอรี่ได้เต็มร้อย แต่ก็นับว่าเป็นวิธีที่น่าลองทีเดียว โดยการ Calibrate นั้นมีด้วยกันหลายแนวทาง แล้วแต่ว่าจะเป็นวิธีจากสำนักไหน แต่หลักการนั้นก็จะเหมือนๆ คือการชาร์จประจุให้เต็ม จากนั้นทำการคลายประจุให้หมด และกลับมาชาร์จไฟใช้งานตามปกติ แต่การทำนั้นต้องทำเป็นขั้นตอน ซึ่งมีวิธีดังนี้
- ขั้นตอนที่หนึ่งให้ชาร์จแบตเตอรี่โน้ตบุ๊กจนเต็ม และเมื่อเต็มแล้วก็ให้ชาร์จต่อเนื่องไปอีกราวๆ 30 นาที
- จากนั้นถอดสายชาร์จออกจากเครื่อง แล้วใช้งานบนแบตเตอรี่จนกว่าแบตเตอรี่จะหมด หรือให้เหลือสัก 5-10% ก็ได้
- ปล่อยให้เครื่องหยุดทำงาน เพื่อให้มีการคลายประจุอย่างเต็มที่ โดยใช้เวลาประมาณ 5-6 ชั่วโมง หรืออาจจะทิ้งค้างคืนไว้ก็ได้
- หลังจากนั้นจึงเปิดเครื่อง และเสียบปลั๊กชาร์จไฟให้เต็ม 100% แล้วใช้งานตามปกติต่อไป การ Calibrate นั้น ควรจะทำเดือนละหนึ่งครั้ง ไม่ควรทำถี่เกินไป เพราะอาจทำให้แบตเตอรี่เสื่อมได้
ด้วยทริคต่างๆ เหล่านี้ ถือว่าเป็นตัวช่วยที่จะทำให้แบตเตอรี่ที่เคยมีปัญหาในการชาร์จกลับคืนสภาพมาบ้างไม่มากก็น้อย และยังขึ้นอยู่กับว่ามีการดูแลหรือมีรูปแบบการใช้งานเป็นเช่นไร ซึ่งแน่นอนว่าปัญหาบางอย่างก็ไม่สามารถกลับคืนมาให้ดีเหมือนใหม่ได้ แต่ก็พอที่จะบรรเทาเบาบางลงได้บ้าง
ขอบคุณรูปภาพจาก http://www.lazada.co.th/shop-laptops/asus/