Apple เปิดตัว Mac Studio และ Studio Display คู่หูระดับไฮเอนด์ของคนทำงาน

นอกจากการเปิดตัว iPhone SE 3 และ iPad Air 5 แล้ว ในงาน  Peek Performance ทางบริษัท Apple ยังได้มีการแนะนำ Mac Studio และ Studio Display คู่หูระดับไฮเอนด์ของคนทำงาน ออกมาเป็นตัวเลือกใหม่ด้วย แน่นอนทรงพลังพร้อมปะทะทุกงานโดยทางผู้ผลิตเคลมว่าเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ PC ที่แรงที่สุดในโลก ส่วนหน้าจอก็เอาอยู่ทั้งงานกราฟิกและการเล่นเกมหนักๆ ด้วยความคมชัดระดับ 5K กล้องถ่ายรูปและระบบเสียง มาดูรายละเอียดกันว่าน่าลงทุนด้วยมากน้อยแค่ไหน

Mac Studio

เริ่มต้นด้วย Mac Studio เปิดตัวออกมาในฐานะของเดสก์ท็อปประสิทธิภาพสูงสำหรับงานระดับ Work station  ที่คนทำงานหลายคนต้องการ โดยโดดเด่นมาตั้งแต่ดีไซน์ที่เรียบหรูมีระดับออกแบบมาให้ไม่กินพื้นที่บนโต๊ะทำงานด้วยมิติแบบสี่เหลี่ยมจัตุรัสขนาด 19.7 เซนติเมตร ความสูงอยู่ที่ 9.5 เซนติเมตร นั่นหมายความว่าสามารถวางเอาไว้ใต้หน้าจอได้ดูไม่รกสายตา ด้านวัสดุตัวเครื่องใช้อะลูมิเนียมขึ้นรูปชิ้นเดียวที่ใส่ตัวเป่าลมเอาไว้ช่วยระบายอากาศพร้อมเจาะรูที่ด้านล่างและด้านข้างอีก 4,000 จุด ช่วยให้ทำงานได้ยาวนานหมดปัญหาเครื่องร้อนและยังเงียบมากอีกด้วย

ไฮไลต์สำคัญของ Mac Studio นั้นอยู่ที่พลังในการประมวลผลที่เคลมว่าทรงพลังที่สุดในโลก แต่ประหยัดพลังงานมากขึ้น โดยมาพร้อมกับชิป M1 Max และ M1 Ultra ที่เป็นชิปแบบ System on Chip ใส่ตัวทรานซิสเตอร์มาให้ถึง 1.14 แสนล้านตัวเลยทีเดียวเรียกว่าเร็วแรงแน่นอน และหากนึกภาพความแรงไม่ออกเมื่อเทียบรุ่นชิป M1 Max กับ iMac 27 นิ้ว 10 core จะแรงกว่าราว 2.5 เท่า ส่วนชิป M1 Ultra จะทรงพลังกว่าที่ 3.8 เท่า ซึ่งรุ่นชิป M1 Max มี Unified Shared Memory สูงสุด 64 GB ด้าน M1 Ultra จัดเต็มกว่าที่ 128 GB ไม่เพียงเท่านี้เพราะตัว SSD ของรุ่นนี้สามารถอ่านข้อมูลสูงสุดที่ 7.4GB/s พื้นที่เก็บข้อมูลสูงสุดที่ 8 TB ด้วยสเปคระดับนี้บอกเลยว่างานหนักแค่ไหนก็เอาอยู่

มาดูในส่วนของการเชื่อมต่อทั้งแบบมีสายและแบบไร้สายของเจ้า Mac Studio กันบ้าง ซึ่งก็ต้องบอกว่าครบถ้วนทุกความต้องการของคนทำงานในยุคนี้ โดยมากับพอร์ต HDMI, USB-A, USB-C, ช่องอ่าน SDXC Card, พอร์ต 10Gb Ethernet, ช่องเสียบแจ๊คสำหรับหูฟัง และพอร์ต Thunderbolt 4 ที่ใส่มาทั้งหมดถึง 4 พอร์ต ส่วนการเชื่อมต่อแบบไร้สายรองรับ Bluetooth 5.0 และ Wi-Fi 6 จึงมั่นใจได้ในเรื่องความเสถียรของสัญญาณ ภาพรวมถือว่ามาไกลเลยล่ะ

Studio Display

และคู่หูที่เปิดตัวออกมาพร้อมกันและน่าสนใจไม่น้อยก็คือ Studio Display หน้าจอแสดงผลขนาด 27 นิ้ว ความคมชัดระดับ 5K 8ความสว่างสูงสุด 600 nits รองรับการแสดงผลแบบ True Tone สามารถปรับค่าตามสภาพแวดล้อมได้ ขอบจอมีความสมมาตรกัน ตัวเครื่องดูเรียบหรูทันสมัยด้วยวัสดุอะลูมิเนียมขัดเงา มาพร้อมกล้องความละเอียด 12 ล้านพิกเซล มีฟีเจอร์ Center Stage ที่ช่วยให้ภาพอยู่ตรงกลางได้อัตโนมัติ

Studio Display ขับเคลื่อนการทำงานด้วยชิปเซ็ต Apple A13 Bionic ช่วยให้ทำงานได้อย่างลื่นไหลต่อเนื่องสมกับเป็นคู่หูของ Mac Studio ด้านระบบเสียงมากับลำโพงคุณภาพสูงถึง 6 ตัว พร้อมฟีเจอร์ Spatial Audio ระบบเสียงตามตำแหน่ง สามารถสั่งงานด้วยเสียงผ่านผู้ช่วยอัจฉริยะ Siri ได้ มีไมโครโฟนระดับ Studio ใส่มาอีก 3 ตัวเพื่อความคมชัด พอร์ตการเชื่อมต่อให้มาทั้งพอร์ต Thunderbolt จำนวน 1 พอร์ต, พอร์ต USB-C จำนวน 3 พอร์ต รองรับการเชื่อมต่อกับ MacBook Pro, Magic Trackpad, Magic Keyboard และ Magic Mouse ซึ่งเมื่อจับคู่กับ Mac Studio ที่คือเครื่องมือระดับเทพอย่างไม่ต้องสงสัย

สำหรับราคาค่าตัวของ Mac Studio รุ่นชิป M1 Max อยู่ที่ 69,900 บาท ส่วนตัวชิป M1 Ultra ค่าตัวขยับขึ้นมาเป็น 139,900 บาท ในขณะที่ Studio Display ราคาเริ่มต้นที่ 54,900 บาท สำหรับตัวกระจกธรรมดา และ 64,500 บาท สำหรับตัวกระจก Nano-texture ใครสนใจเตรียมเงินเอาไว้รอได้เลยไม่นานน่าจะวางขายอย่างเป็นทางการให้ได้เปย์กันแล้ว

ดูรายละเอียดราคา และสั่งซื้อ Mac Studio และ Studio Display โปรโมชั่นพิเศษ >> คลิกที่นี่


ส่งต่อเรื่องนี้ให้เพื่อน!