เข้าสู่ช่วงปลายปีเราก็ได้เห็นการประชันโฉมกันของสมาร์ทโฟนระดับเรือธงของแต่ละค่าย ที่ขนกันออกมาดึงดูดเงินในกระเป๋าของผู้ใช้ โดยหลังจากที่ทาง Apple เปิดตัว iPhone 13 Series ไป ก็มีเรือธงฝั่ง Android อย่าง Xiaomi 11T Series ตามออกมาติดๆ ส่วนจะดียังไง น่าซื้อหรือไม่ เราสรุปข้อมูลมาให้แล้วในบทความนี้
Xiaomi 11T Series มีด้วยกันทั้งหมด 2 รุ่นคือ Xiaomi 11T และ 11T Pro ซึ่งสเปคส่วนใหญ่ของทั้งสองรุ่นนี้แทบจะถอดกันออกมาความแตกต่างหลักนั้นจะอยู่ที่ชิปเซ็ตที่ใช้เป็นขุมพลังในการประมวลผล โดย Xiaomi 11T Pro นั้นมากับหน้าจอแสดงผลขนาด 6.67 นิ้ว คมชัดระดับ FHD+ อัตราการรีเฟรชอยู่ที่ 120Hz ค่าการตอบสนองการสัมผัสอยู่ที่ 480Hz มี AdaptiveSync ปรับค่ารีเฟรชเรตอัตโนมัติ รองรับ HDR10+ ความสว่างสูงสุด 1,000 nits แข็งแกร่งด้วยกระจก Gorilla Glass Victus เรียกว่าทั้งคมชัด สวยงาม และทนทาน
Xiaomi 11T Pro ขับเคลื่อนการทำงานด้วยชิปเซ็ต Snapdragon 888 ที่ถือว่าตอบโจทย์การประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายทั้งเกมกราฟิกหนักๆ การถ่ายภาพและบันทึกวิดีโอ การใช้งานออนไลน์ โดยจับคู่มากับ RAM ขนาด 8 GB และ 12 GB พื้นที่เก็บข้อมูลภายในเครื่อง 128 GB และ 256 GB ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 11 ครอบด้วย MIUI 12.5 แบตเตอรี่ความจุ 5,000 mAh รองรับการชาร์จเร็ว 120W ที่เคลมว่าชาร์จได้เต็มภายใน 17 นาทีเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีเซ็นเซอร์วัดความร้อนและระบบประหยัดพลังงานติดตั้งมาให้เสร็จสรรพช่วยยืดอายุการใช้งานให้มากขึ้น
มาดูในส่วนของกล้องถ่ายรูปกันบ้าง Xiaomi 11T Pro ได้กล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล กล้องหลังมีทั้งหมด 3 ตัว ประกอบด้วย กล้องหลักความละเอียด 108 ล้านพิกเซล มีระบบ 9-in-1 binning ตามมาด้วยเลนส์ ultra-wide 120 องศา ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล และเลนส์ tele-macro ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล
ฟีเจอร์การถ่ายภาพที่น่าสนใจอาทิ Magic Zoom และ Audio Zoom โหมดการถ่ายภาพกลางคืนที่มีลูกเล่นมากขึ้น รองรับการถ่ายวิดีโอ HDR10+ ซึ่งจะสังเกตได้ว่าสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่ออกมาจะเน้นเรื่องของฟีเจอร์การถ่ายวิดีโอมากขึ้นเพื่อให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ในปัจจุบัน นอกจากนี้ยังมากับลำโพงสเตอริโอคุณภาพดีปรับจูนโดย Harman Kardon และรองรับระบบเสียง Dolby Atmos ที่จะช่วยให้คุณเต็มอิ่มกับทุกคอนเทนต์โปรด
สำหรับอีกรุ่นคือ Xiaomi 11T นั้นอย่างที่บอกเอาไว้ในตอนต้นว่าซีรีส์นี้แทบจะถอดแบบกันออกมาราวกับฝาแฝด แต่แตกต่างกันในเรื่องของชิปเซ็ตที่ใช้ประมวลผล โดยรุ่นเล็กนั้นมากับชิปเซ็ต Dimensity 1200 ที่ก็ถือว่าเร็วแรงพอสมควร ส่วนหน่วยความจำภายในเครื่อง ความจุแบตเตอรี่และกล้องถ่ายรูปนั้นก็ไม่ต่างกันมาก เพียงแค่ Xiaomi 11T ไม่รองรับการบันทึกวิดีโอแบบ HDR10+ และรองรับการชาร์จเร็วแค่ 67W เท่านั้น
Xiaomi 11T Series มีสีสันให้เลือกทั้งหมด 3 สีคือ Moonlight White, Celestial Blue และ Meteorite Gray ราคาค่าตัวแบ่งตามรุ่นและความจุภายในเครื่องดังนี้คือ
- Xiaomi 11T รุ่น RAM 8 GB ความจุ 128 GB ราคา 499 ยูโร หรือประมาณ 19,500 บาท
- Xiaomi 11T รุ่น RAM 8 GB ความจุ 256 GB ราคา 549 ยูโร หรือประมาณ 21,400 บาท
- Xiaomi 11T Pro รุ่น RAM 8 GB ความจุ 128 GB ราคา 649 ยูโร หรือประมาณ 25,300 บาท
- Xiaomi 11T Pro รุ่น RAM 8 GB ความจุ 256 GB ราคา 699 ยูโร หรือประมาณ 27,300 บาท
- Xiaomi 11T Pro รุ่น RAM 12 GB ความจุ 256 GB ราคา 749 ยูโร หรือประมาณ 29,200 บาท
โดยในงานเปิดตัวทางผู้ผลิตระบุว่าจะมีการอัปเดต Security Patch ให้นานถึง 4 ปี และอัปเดตเฟิร์มแวร์ให้นานถึง 3 เวอร์ชันด้วยกัน ส่วนราคาและกำหนดวางจำหน่ายในบ้านเราต้องรอฟังกันอีกครั้ง ว่าจะเคาะออกมาได้น่าสนใจมากน้อยแค่ไหน