หลังจากที่ผมได้เริ่มรีวิว Samsung Galaxy S4 ตอนที่ 1 ไปแล้ว ซึ่งในตอนแรกนั้นผมได้กล่าวถึงข้อมูลเบื้องต้นและแนะนำลักษณะรูปร่างของตัวเครื่องไปเล็กน้อย มาวันที่ผมได้เขียนรีวิวนี้ นับเป็นวันที่ 2 ของการได้สัมผัสเจ้า S4 ผมก็จะขอพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับ Galaxy S4 ให้มากขึ้นต่อจากในตอนที่แล้ว โดยเน้นในเรื่องของฮาร์ดแวร์และคุณภาพหน้าจอที่ถือว่าเป็นอีกจุดเด่นสำคัญของสมาร์ทโฟนในตระกูล Galaxy
เริ่มกันด้วยเรื่องวัสดุของ Galaxy S4 ที่ทางซัมซุงได้พัฒนาจากการใช้พลาสติกทั่วไปใน Galaxy S3 เปลี่ยนมาเป็น “โพลีคาร์บอเนต” หรือพลาสติกชนิดพิเศษที่มีคุณสมบัติในเรื่องของความทนทาน ยืดหยุ่น และมีน้ำหนักเบา ซึ่งด้วยคุณสมบัติอันพิเศษเหล่านี้เอง ทำให้โพลีคาร์บอเนตกลายเป็นวัสดุที่แบรนด์ชั้นนำต่างๆ นิยมนำไปใช้เป็นส่วนประกอบ (ดังแผนภาพแนะนำด้านล่าง)
ทดสอบความยืดหยุนของโพลีคาร์บอเนต จะเห็นได้ว่าฝาหลังของ Galaxy S4 สามารถบิดงอได้มากกว่าพลาสติกปกติ โดยไม่มีการแตกหักหรือผิดทรงไปจากเดิม
ด้วยคุณสมบัติความเบาขอโพลีคาร์บอเนตงส่งผลให้น้ำหนักโดยรวมของ Galaxy S4 นั้นมีเพียง 130 กรัมหรือขีดกว่าๆ เท่านั้นเอง สามารถถือเล่นเป็นเวลานานๆ หรือพกพาได้สะดวกยิ่งขึ้น
ถัดจากเรื่องของวัสดุของส่วนประกอบสำคัญใน Galaxy S4 ที่เรียกว่าโพลีคาร์บอเนตไปแล้ว ต่อไปเรามาดูในเรื่องของการออกแบบและดีไซน์ตัวเครื่องกันบ้างครับ ซึ่งใน Galaxy S4 นั้นมีจุดเด่นตรงที่ฝาหลังจะเป็นลวดลาย (Texture) ซึ่งถือมีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร
โดยทางซัมซุงได้ทำคลิปวีดิโอมาอธิบายเบื้องหลังว่า ลวยลายที่เป็นแสงสะท้อนของฝาหลังนั้น ได้แรงบันดาลใจมาจาก “แสงยามค่ำคืนของดวงดาวบนท้องฟ้า“
คลิปวีดิโอ อธิบายเบื้องหลังการออกแบบ Galaxy S4
และเรื่องสุดท้ายที่จะพูดถึงการรีวิวในตอนนี้เป็นเรื่องของหน้าจอโดยเฉพาะครับ หลังจากเป็นที่รู้กันดีมาตั้งแต่ตอนที่แล้วว่า Galaxy S4 มีหน้าจอขนาด 5 นิ้ว …แต่ตอนนี้เรามาเจาะลึกรายละเอียดเกี่ยวกับจอแสดงผลกันบ้างครับ ว่าหน้าจอของ Galaxy S4 มีดีอย่างไร โดยใน Galaxy S4 นั้นทางซัมซุงได้ใช้เทคโนโลยีในการจัดเรียงพิกเซลของจอแสดงผลจากแบบเดิมมาเป็นแบบ PenTile ซึ่งจะให้สีออกมาได้สดและคมชัดกว่าใน Galaxy S3 ซึ่งทางเว็บไซต์ Extremetech ได้ทำการทดสอบอย่างละเอียดแล้วยกให้หน้าจอของ Galaxy S4 คุณภาพในระดับที่เทียบเท่ากับหน้าจอ Retina Display ของ iPhone 5 กันเลยทีเดียวครับ
และถ้าหากพูดถึงค่า PPI (Pixel per inch) หรือค่าความหนาแน่นของจำนวน Pixel ในระยะ 1 นิ้ว นั้นด้าน Galaxy S4 มีสูงถึง 441 PPI, Galaxy S3 มีเพียง 306 PPI ส่วน iPhone 5 นั้นมีค่าที่ 326 PPI
ซึ่งก็แน่นอนว่าหน้าจอของ Galaxy S4 นั้น สามารถแสดงผลได้ในระดับ Full HD จะดูหนังหรือ Youtube ก็สามารถดูได้แบบเต็มตากันเลยครับ
คลิปวีดิโอทดสอบการดูวีดิโอบน Galaxy S4
และผมคงต้องจบการรีวิว Samsung Galaxy S4 ตอนที่ 2 ไว้เพียงแต่เพียงเท่านี้ เรียกว่ามาถึงจุดนี้หฟลายท่านน่าจะได้รู้จัก Galaxy S4 กันเพิ่มขึ้นไม่มากก็น้อย ในตอนต่อไปผมจะเริ่มพูดถึงในเรื่องของซอฟต์แวร์ภายในครับ ซึ่งถือว่าเป็นไฮไลท์ที่สำคัญมากๆ รอติดตามชมกันตอนต่อไปครับ
***บทความนี้เป็นบทความ Advertorial