รีวิว Oppo Find Mirror แอนดรอยด์สองซิม ดีไซน์บาง&สวย

กลับมาพบกับการรีวิวสมาร์ทโฟนอีกครั้งนะครับ คราวนี้ผมมาพร้อมกับสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่จาก Oppo ที่มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า Oppo Find Mirror (รหัส R819) โดยจุดเด่นของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้คือ เป็นแอนดรอยด์ที่สามารถใส่ซิมพร้อมกันได้ 2 ซิม และที่สำคัญคือตัวเครื่องมีดีไซน์บางๆ เรียบๆ ซึ่งสำหรับตัวผมเองแล้วยอมรับเลยว่าสวยครับ

แต่ก่อนจะไปดูรีวิว เรามาดูข้อมูลของตัวเครื่องกันก่อนเลยครับ ว่ามีรายละเอียดสเปคอย่างไรบ้าง

• หน้าจอขนาด 4.7 นิ้ว (1280×720) ความละเอียด 720P
• ซีพียู CPU Quad Core 1.2GHz (MTK6589)
• แรม 1 GB
• ความจุ 16 GB (ใส่ micro-SD เพิ่มไม่ได้)
• กล้องหลัง 8 ล้านพิกเซล มีแฟลช ถ่ายวีดิโอ Full HD 1080P
• กล้องหน้า 2 ล้านพิกเซล
• แบตเตอร์รี่ 2,000 mAh
• ระบบปฏิบัติการ Android 4.2.1 Jelly Bean
• รองรับ 3G พร้อมกัน 2 ซิม (Micro-Sim)
• ตัวเครื่องมีความหนา 7.3 มิลลิเมตร

เห็นสเป็คกันไปคร่าวๆ แล้ว ต้องบอกว่าไม่ขี้เหร่เลยทีเดียวครับ ค่อนข้างไปทางระดับสูงด้วยซ้ำไป

…เริ่มจากการกล่องกันก่อนเลยครับ ดีไซน์ของกล่องทำออกมาได้ดีเลยทีเดียว

โดยฝาของกล่องนั้นจะเป็นแถบแม่เหล็ก ใช้สำหรับในการช่วยให้การปิด-เปิดกล่อง สะดวกแล้วดูเก๋ยิ่งขึ้นครับ

โฉมหน้าของตัวเครื่อง

จะเห็นว่าออกแบบมาได้ค่อนข้างบางเลยทีเดียว (ถึงแม้จะไม่บางที่สุดในโลกก็ตาม)

น้ำหนักก็กำลังพอดี ไม่หนักหรือเบาจนเกินไป จับถนัดมือครับ

ด้านหลัง มีโลโก้ของ Oppo อยู่ และพื้นที่เป็นสีขาวนั้น ถ้าดูดีๆ จะมีลายเส้นขวางๆ อยู่ (คล้ายๆ เคฟล่าแต่ไม่ใช่)

ด้านข้างฝั่งขวาเป็นปุ่มสำหรับเพิ่ม-ลดระดับเสียง

ฝั่งซ้ายเป็นปุ่ม Power (นิ้วโป้งของผมบังอยู่) และมีถาดใส่ซิมอยู่ด้านล่างครับ

ด้านหน้าครึ่งบน เป็นตัวเซ็นเซอร์และกล้องหน้าครับ

ด้านหน้าครึ่งล่าง ก็เป็นปุ่มมาตรฐานสำหรับมือถือแอนดรอยด์ทั่วไปครับ ได้แก่ ปุ่มออฟชั่น ปุ่มโฮม และปุ่มถอยกลับครับ

ด้านล่าง เป็นช่องสำหรับเสียบสาย Micro USB และรูสำหรับรับเสียงของไมโครโฟนครับ

ด้านบนเป็นช่องสำหรับเสียบหูฟังขนาดมาตราฐาน

พลิกมาดูตรงข้างหลังอีกรอบ

ส่วนบนจะเป็นกล้องความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชอยู่คู่กัน

ส่วนล่างจะเป็นลำโพงสำหรับเสียงทั่วไปหรือเวลาใช้เปิดลำโพงตอนคุยโทรศัพท์

มาดูตรงที่ถาดสำหรับใส่ซิมการ์ดกันต่อครับ จะอยู่ตรงด้านซ้ายของตัวเครื่อง

เอาเข็มที่แถมมาให้ไปแทง เพื่อให้ฐานซิมเด้งออกมาครับ

ถาดสำหรับซิมการ์ด ที่สามารถใส่พร้อมกันได้สองซิม

ลองทดสอบเปิดเครื่องดูครับ จะเห็นว่าการให้แสงของหน้าจอนั้นคมชัดมาก ดูจากรูปเผินๆ คิดว่าเป็น Mockup

ลองเข้าดูที่หน้ารายละเอียดเกี่ยวกับตัวเครื่อง

มาดูกันที่ภายในตัวเครื่องกันบ้างครับ ภาพซ้ายเป็นหน้า Home Screen ออกแบบแนวเรียบๆ ที่ต่อยอดจาก Find Clover (มาก่อน iOS 7 Beta อีกนะ) ส่วนภาพขวาก็เป็นหน้า App Drawer หรือหน้ารวมแอพพลิเคชั่นที่ติดตั้งอยุ่ในเครื่องครับ

แอพต่างๆ ที่มีมาให้ (ยกเว้น Mobo Skype CandyCrush Bad Piggies ที่ผมดาวน์โหลดมาเองตอนหลังครับ) จะเห็นว่าบริการต่างๆ ของ Google มาครบครันครับ

Google Play และ Google Now

หน้าสำหรับตั้งค่า (ซ้าย) และหน้าสำหรับตั้งค่าจัดการซิมการ์ดครับ (ขวา)

การตั้งค่าการใช้งาน 2 ซิมนั้นก็ไม่ยุ่งยากเลยครับ ทาง Oppo มีระบบที่เรียกว่า “สมาร์ท 2 ซิม” ให้ ทำให้ตอนจะโทรหรือเปิดใช้ data ไม่มั่วแน่นอนครับ …ว่าแล้วก็ลองทดสอบความเร็ว 3G กันก่อนเลยครับ เป็น 3G ของค่าย True-H นะครับ ผบออกมาก็ดังภาพด้านขวา

รายละเอียดหน่วยความจำในเครื่อง

รายละเอียดของเครื่องในหน้า About (ซ้าย) และผลการทดสอบ Benchmark ด้วย AnTuTu ผลออกมาเห็นว่าไม่เลวเลยทีเดียวครับกับราคานี้ น่าจะเล่นเกมทั่วไปได้สบายๆ เลย

หน้า Notification ก็เหมือนแอนดรอยด์ทั่วไป

อันนี้เป็นแอพรายงานสภาพอากาศครับ สวยงามๆ

แอพสำหรับเล่นเพลง (ภาพซ้าย) และที่ผมชอบคือมี Widget สำหรับสั่งหยุด/เล่นเพลง ที่เป็นรูปแผ่นเสียงในหน้าจออีกด้วยครับ (ภาพขวา)

พูดถึงเรื่องเพลงแล้วเจ้า Find Mirror นี่มีระบบเสียงแบบ Dirac HD Sound ด้วยนะครับ ทำให้เสียงที่ออกมาไพเราะขึ้น (ตามทฤษฏีนะ เพราะผมแยกไม่ออกขนาดนั้น – -*)

อีกส่วนนึงน่าสนใจคือ มีฟีเจอร์ที่ทาง Oppo เพิ่มมาให้หลายส่วนด้วยกัน ที่เป็นการสั่งงานด้วยท่าทางหรือการเคลื่อนไหวผ่านตัวเซ็นเซอร์ ได้แก่ การพลิกตัวเครื่องกลับเพื่อปิดเสียง การรับสายโทรศัพท์ด้วยเอามือไปปัดที่หน้าจอ (เอ๊ะ !!) เป็นต้น

มาดูต่อกันที่เรื่องของกล้องถ่ายภาพครับ โดยซอฟต์แวร์เดิมๆ ของกล้องใน Find Mirror นั้นก็มีลุกเล่นอยุ่พอสมควรเลย ไม่ว่าจะเป็นการใส่ฟิลเตอร์ให้รูปภาพ

และการตั้งค่าต่างๆ

ตัวอย่างภาพถ่ายด้วยกล้องหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล

Find Mirror มีฟีเจอร์สำหรับการถ่ายภาพนิ่ง พร้อมกับอัดวีดิโอไปด้วยก็ได้นะครับ ตัวอย่างจากภาพด้านล่างนี้ ผมถ่ายพร้อมตอนที่กำลังอัดวีดิโอไปด้วย

จะเห็นว่าการให้สีและความคมชัดของภาพถ่ายทำออกมาได้ดีพอสมควรครับ

จากที่ผมได้ใช้งานเจ้า Find Mirror แบบจริงๆ จังๆ มาเป็นเวลา 1 สัปดาห์ จะสรุปการใช้งานทั้งที่เป็นข้อดีและข้อด้อยผสมกันออกมาดังนี้ครับ

• ดีไซน์ยอมรับว่าสวย (เพราะมันบางด้วย) ควักออกมาที มีคนสนใจตลอด
• สเปคที่ได้คุ้มค่ากับราคามากครับ ลื่นพอสมควร
• มีอาการค้าง (ชนิดที่ต้องกดปุ่ม Restart) ให้เห็นบ้าง ตอนใช้งานแอพหนักๆ (เปิดสลับไปมา) ตลอด 1 สัปดาห์ค้างประมาณ 2-3 ครั้ง
• เนื่องจากลำโพงอยู่ด้านหลัง เวลาวางเครื่องราบกับที่นอน เสียงอู้อี้ไปหมดเลย ต้องตะแคงตัวเครื่องไม่ให้แนบไปกับพื้นหรือใช้หูฟังเอา
• UI ระบบภายในออกแบบมาได้เรียบง่ายมากๆ ยังกะเป็น Pure Android เลย
• ภาพจากกล้องหลังคุณภาพดีระดับกลางๆ เลยครับ (ยังไม่ถึงกับยอดเยี่ยม) จับภาพได้เร็ว
• ถ่ายภาพในที่แสงน้อยๆ ออกมามี noise พอสมควร
• ใส่ได้ 2 ซิม (อันนี้ไม่เกี่ยวกับรีวิวนะ แต่ผมเพิ่งเห็นค่าของมือถือ 2 ซิม ก็ตอนใช้ Find Mirror นี่แล)
• มีเหตุการณ์ มือถือดังอยู่ในกระเป๋ากางเกง (เพราะคนโทรเข้า) พอควักออกมาดูเสียงริงโทรก็เงียบไปเลย (ฟีเจอร์พลิกเพื่อปิดเสียง นั่งเอง) มีประโยชน์มากครับ เวลาอยุ่ในสถานที่ที่ต้องเงียบๆ แล้วลืมปิดเสียงโทรศัพท์
• แบตหมดเร็วไปหน่อย ผมลองใช้เป็นเครื่องหลัก (เล่นโซเชี่ยล อ่านอีเมล อ่านข่าวทั่วไป) แบตอยู่ได้แค่ตอนเย็นครับ (อาจจะเพราะผมใช้หนักเกินไปก็ได้)
• เต็ม 10 คะแนน ให้ 7 ครับ

,..นับว่าเป็นมือถือแอนดรอยด์ระดับกลางตัวนึงที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียวครับ ใครมีงบประมาณจะซื้อมือถือใหม่ในเรทราคาประมาณนี้ ก็ลองไปหา Oppo Find Mirror ตามร้านโชว์มาลองลูบๆ คลำๆ กันก่อนได้ครับ เผื่อจะติดใจ :)

สำหรับ Oppo Find Mirror มีราคาค่าตัวอย่างเป็นทางการที่ 11,990 บาท ใครสนใจเป็นเจ้าของก็สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายมือถือทั่วไปครับ