รีวิว iPhone 5S : ตัวเครื่อง, 4G และการถ่ายภาพ

อย่างที่ได้เกริ่นไปในตอนก่อนหน้านี้แล้วนะครับ ว่าผมได้เครื่อง iPhone 5S มาใหม่ ตั้งแต่ในงานเปิดตัว iPhone 5S/5C อย่างเป็นทางการครั้งแรกในประเทศไทยของทรูมูฟเอช เมื่อวันที่ 25 ตุลาคมผมที่ผ่านมา จนถึงวันนี้ผมใช้ iPhone 5S ผ่านมาแล้วเกือบ 2 สัปดาห์จึงได้ฤกษ์ขอมาเปิดซีรีย์รีวิว iPhone 5S ให้ท่านผู้ชมได้รับชมกัน

ซึ่งในตอนนี้ผมจะกล่าวถึงประเด็นหลักๆ ก่อน 3 ประเด็น คือ พรีวิวลักษณะตัวเครื่อง, การเชื่อมต่อผ่านเครือข่าย 4G LTE และตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง ซึ่งจะสวยงามหรือคมชัดแค่ไหน สามารถติดตามกันได้เลยครับ (รูปอาจจะเยอะหน่อยนะครับ)

แกะกล่อง iPhone 5S

ก่อนอื่นผมจะขอสรุปข้อมูลสเปคคร่าวๆ ของ iPhone 5S ให้ทุกท่านได้ทราบกันก่อนนะครับ

  • หน้าจอขนาด 4 นิ้ว (Retina Display)
  • ความละเอียดหน้าจอ 1136 x 640 พิกเซล (326 ppi)
  • ซีพียู A7 แบบ 64-บิต
  • ชิพ M7 สำหรับควบคุมและประมวลผลเซ็นเซอร์ต่างๆ
  • กล้องหลัง (iSight) ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล (ระบบโฟกัสอัตโนมัติ) รูรับแสงขนาด ƒ/2.2
  • ถ่ายวีดิโอความละเอียด HD 1080p
  • กล้องหน้า (FaceTime) ความละเอียด 1.2 ล้านพิกเซล HD 720p
  • ความจุภายใน 16, 32  และ 64 GB
  • Touch ID เซ็นเซอร์สำหรับสแกนลายนิ้วมือ
  • รองรับ 3G, 4G LTE (นาโนซิม)
  • รองรับ  Wi-Fi, Bluetooth 4.0
  • ขนาดตัวเครื่อง ยาว 4.87 นิ้ว x กว้าง 2.31 นิ้ว x หนา 0.3 นิ้ว
  • น้ำหนัก 112 กรัม
  • แบตเตอร์รี่ขนาด 1,570 mAh
  • ตัวเครื่องมีให้เลือก 3 สี (เทา, ทอง, เงิน)

ได้รู้สเปคคร่าวๆ กันแล้ว ต่อไปมาเริ่มแกะกล่องกันเลยครับ สำหรับเครื่องที่ผมรีวิวเป็น iPhone 5S ขนาดความจุ 16 GB เครื่องสีทอง …แกะออกมาก็เจอตัวเครื่องกับคู่มือการใช้งาน

ภายในกล่องยังมีอุปกรณ์เสริมที่แถมมาให้ ได้แก้ ชุดหูฟัง EarPods, อแดปเตอร์ และสาย Lightning สำหรับชาร์ตแบตเตอร์รี่และเชื่อมต่อข้อมูลกับคอมพิวเตอร์

พลิกมาดูด้านหลังของตัวเครื่องจะเห็นส่วนที่เป็นสีทอง หลายคนอาจสงสัยว่าสีทองของ iPhone 5S เป็นสีทองเหมือนทองคำจริงๆ หรือเปล่า แต่พอได้เห็นเครื่องจริงแล้ว ต้องบอกว่าเป็นทองอ่อนๆ เหมือนแชมเปญตามที่แอปเปิลได้บอกไว้ครับ

ด้านหน้าตัวเครื่องจะเป็นพื้นหลังสีขาวครับ ถ้าไม่สังเกตุดีๆ หรือใส่เคสด้านหลังแทบจะไม่รู้เลยว่าเป็น iPhone สีทอง

สำหรับแฟลชของกล้องหลังใน iPhone 5S นั้นจะเป็น LED สองหลอดคู่ ซึ่งต่างจาก iPhone รุ่นก่อนที่มีเพียงหลอดเดียว ทำให้ช่วยฉายไฟเวลาถ่ายภาพตอนกลางคืนได้สว่างมากขึ้นครับ

ขอบด้านข้างของตัวเครื่องก็จะเป็นสีทองเช่นเดียวกับด้านหลัง

หน้าจอขนาด 4 นิ้ว (Retina Display)

เป็นที่รุ้กันดีว่า iPhone 5S มีฟีเจอร์ใหม่ที่สำคัญอย่าง Touch ID หรือปุ่มสแกนลายนิ้วมือสำหรับยืนยันตัวตน ซึ่งปุ่มสแกนที่ว่านี้ก็คือปุ่มเดียวกันกับปุ่มโฮมครับ โดยรอบปุ่มโฮสจะมีสีเรืองแสงตามสีของเครื่องด้วย

ด้านล่างของตัวเครื่องเป็นช่องสำหรับสายหูฟังขนาด 3.5 มม. พอร์ต Lightning และลำโพงนอกครับ

ด้านซ้ายจะมีปุ่มสำหรับปิด/เปิด และเพิ่ม/ลดเสียง

ด้านขวาเป็นช่องสำหรับถอด/ใส่ถาดซิม (นาโนซิม)

ด้านบนเป็นปุ่ม Power

ขนาดและการสัมผัสตัวเครื่องของ iPhone 5S นั้นก็ไม่แตกต่างจาก iPhone 5 ครับ, น้ำหนักเบา จับ-เล่นมือเดียวถนัด

ดูสีทองของด้านหลังชัดๆ กันอีกครั้ง

ปุ่มโฮมมีแถบสีสะท้อนแสง ดูเด่นขึ้นมาชัดเจน จนสามารถแยกได้ว่าเป็น iPhone 5S หรือ iPhone 5

ซอฟต์แวร์ภายใน iPhone 5S

ดูพรีวิวตัวเครื่องกันไปแล้ว ต่อไปมาดูในส่วนของระบบภายในกันบ้างครับ ซึ่งแน่นอนว่า iPhone 5S จะมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ iOS 7 ตัวใหม่ล่าสุดของแอปเปิล ที่ได้เปิดตัวออกมาพร้อมกับ iPhone 5S และ iPhone 5C …อาการค้างของ iOS 7 กับ iPhone รุ่นก่อนๆ แทบไม่ปรากฏให้เห็นใน iPhone 5S เลยครับ

 

การปรับตั้งค่าต่างๆ ภายใน iOS 7 ของ iPhone 5S ก็เป็นปกติทั่วไปเช่นเดียวกับใน iPhone / iPad รุ่นอื่นๆ ครับ

แอพต่างๆ พื้นฐานใน iOS 7 ไม่ว่าจะเป็นแอพอีเมล หรือ Safari สามารถทำได้อย่างอย่างสมบูรณ์แบบตามมาตรฐานทั่วไปของแอปเปิล

แอพสำหรับโทรศัพท์, บัญชีรายชื่อ ส่วนแอพ FaceTime ใน iOS 7 จะมีความสามารถในการโทรหากันได้อีกด้วย (เสียงอย่างเดียว ไม่เปิดวีดิโอคอล ไม่เปลืองดาต้าอีกด้วย)

ก็เรียกว่าแอพต่างๆ ใน iPhone 5S แทบไม่แตกต่างจาก iOS 7 บนอุปกรณ์อื่นๆ ครับ

รวมถึง Find my iPhone ใน iOS 7 ก็ได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ป้องกันผู้ไม่ประสงค์ดีนำ iPhone ของเราไปใช้ได้หนาแน่นและรัดกุมกว่าเดิมอีกด้วยครับ

แอพเกลเลอร์รี่สำหรับดูรูปภาพในเครื่อง

อีกสิ่งหนึ่งที่แอปเปิลยกเป็นสิทธิพิเศษสำหรับคนที่เพิ่งซื้อ iPhone 5S จะได้รับสิทธิ์ดาวน์โหลดแอพต่างๆ ของแอปเปิล ไม่ว่าจะเป็นชุดโปรแกรมในชุด iWork ไม่ว่าจะเป็น iMovie, iPhoto, Keynote, Pages และอื่นๆ ได้ฟรีอีกด้วยครับ (ปกติขาย)

การเชื่อมต่อผ่าน 4G LTE

เป็นที่รู้กันดีว่า iPhone 5S นั้น รองรับการเชื่อมต่อผ่านทั้งระบบ 3G และ 4G LTE ได้ในเครื่องเดียว โดยเฉพาะ 4G นั้น ถือเป็นเทคโนโลยีการเชื่อมต่อในแบบใหม่ ที่สามารถทำให้สมาร์ทโฟนของเรารับ-ส่งข้อมูลได้เร็วยิ่งขึ้น รวมไปถึงประเทศไทยที่ 4G LTE กำลังเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่ง ณ ตอนนี้มีเพียง Truemove H เจ้าเดียวเท่านั้นที่เปิดให้บริการ 4G LTE  (ให้บริการพร้อมๆ กับ 3G) ซึ่งในการรีวิว iPhone 5S ครั้งนี้ ผมก็ได้ทำการทดสอบการใช้งาน 4G LTE ด้วยครับ

การใช้ 4G LTE บน iPhone 5S นั้นสามารถทำได้ง่ายๆ ครับ เพียงใส่ซิม และอยู่ในพื้นที่ที่มีสัญญาณ 4G LTE ของ Truemove H สัญลักษณ์ตรงมุมด้านบนซ้ายและในหน้า Cellular Setting ของเครื่องจะปรากฏตัวอักษร 4G ให้เห็นครับ …สามารถใช้งานได้เลย

หากเราออกนอกเขตพื้นที่การให้บริการ 4G LTE แล้ว iPhone 5S ของเราก็จะไปจับสัญญาณกับ 3G ของ (ที่มีเป็นปกติอยู่แล้ว) ให้ทันที ทำให้สามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง ไม่ต้องตั้งค่าใดๆ เพิ่มเติมครับ

สำหรับพื้นที่ที่รองรับการใช้ 4G LTE  นั้น ตอนนี้ส่วนใหญ่ยังอยู่บริเวณกรุงเทพฯ โดยในสิ้นปีน 2556 ทาง Trumove H จะขยายไปในจังหวัดหัวเมืองอื่นๆ อีก ตามภาพรายละเอียดด้านล่างครับ

ลองทดสอบความเร็ว (Speedtest) การรับ-ส่งข้อมูลของ 4G LTE บน iPhone 5S ครับ

จะเห็นว่าขนาดในห้างชื่อดังอย่างพารากอน ที่มีคนใช้งานเครือข่ายมือถืออย่างแออัด ก็ยังสามารถทำความเร็วออกมาได้ไม่เลวเลยทีเดียว จะใช้งานเว็บไซต์ เล่น/แชทผ่านโซเชี่ยลเน็ตเวิร์ก หรือใช้งานหนักๆ อย่างเช่น เปิดดูคลิปใน Youtube , Live Streaming หรือทำ VDO Call ได้อย่างสบายๆ ครับ

กล้องและตัวอย่างภาพถ่ายของ iPhone 5S

อีกจุดเด่นอย่างหนึ่งของ iPhone 5S คือ มีการปรับปรุงประสิทธิภาพของกล้องถ่ายรุปให้ดีกว่ารุ่นเดิม ซึ่งถึงแม้ iPhone 5S จะมีความละเอียดกล้องหลัง 8 ล้านพิกเซลเท่ากับ iPhone 5 แต่ที่แตกต่างกันก็คือ กล้องของ iPhone 5S จะมีรูรับแสงขนาด ƒ/2.2 ทำให้ช่วยในการรับแสงหรือถ่ายภาพในที่แสงน้อยๆ ได้ดีกว่าเดิมครับ

มาดูที่แอพกล้องกันก่อน ซึ่งใน iOS 7 นั้นได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ เข้ามาอยู่บ้างครับ ได้แก่ การใส่ฟิลเตอร์ให้ภาพถ่าย

และการถ่ายภาพแบบ SQUARE ที่มีความกว้างและความยาวเท่ากัน (เหมือนขนาดภาพใน Instagram) ส่วนฟีเจอร์เดิมๆ อย่างการถ่ายภาพ Panorama ก็ยังคงมีอยู่ครับ

 

นอกจากถ่ายวีดิโอได้คมชัดระดับ 1080p แล้ว iPhone 5S ยังมีฟีเจอร์ใหม่ล่าสุด ด้วยการสามารถถ่ายวีดิโอแบบสโลโมชั่น ที่ความละเอียด 120 FPS ได้อีกด้วยครับ

ตัวอย่างวีดิโอขบวนรถไฟ แบบสโลโมชั่นของ iPhone 5S

และปิดท้ายการรีวิวในตอนนี้ด้วยตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลังของ iPhone 5S ครับ

ภาพถ่ายตอนกลางคืนหรือในที่ที่มีแสงน้อย

สำหรับคนที่สนใจ iPhone 5S ก็สามารถดูรายละเอียดราคาได้จากรูปภาพและลิงก์ด้านล่างนี้เลยครับ

ข้อมูลเพิ่มเติม >> http://truemoveh.truecorp.co.th


ส่งต่อเรื่องนี้ให้เพื่อน!