หลังจากมีการเปิดตัวไอโฟน 5 ทางแอปเปิลก็มีแผนที่จะเริ่มจำหน่ายใน 9 ประเทศแรกก่อน คือ สหรัฐอเมริกา, แคนาดา, อังกฤษ, ฝรั่งเศส, เยอรมัน, ออสเตรเลีย, ญี่ปุ่น, ฮ่องกง และสิงคโปร์ ซึ่งในประเทศไทยคาดว่าน่าจะเริ่มจำหน่ายได้ประมาณเดือนธันวาคม (อ่านรายละเอียดเกี่ยวกับ iPhone 5 ที่นี่)
ล่าสุดแอปเปิลก็เริ่มเปิดราคาจำหน่าย iPhone 5 แบบซื้อขาด (ไม่ติดสัญญากับเครือข่าย) ในประเทศต่างๆ ออกมาแล้ว ซึ่งราคาในแต่ละประเทศก็แตกต่างกันเล็กน้อย เนื่องมาจากค่าเงินและภาษี โดยประเทศที่มีการวางจำหน่าย iPhone 5 ในล็อตแรกที่อยู่ใกล้ประเทศไทยที่สุด น่าจะเป็นที่สิงคโปร์และฮ่องกง
เป็นที่รู้กันดีว่าถึงแม้ในประเทศไทยจะยังไม่มีการขาย iPhone 5 อย่างเป็นทางการจาก Apple แต่ก็มักจะมีพ่อค้าหัวใสนำเข้าเครื่องจากต่างประเทศเข้ามาขายในประเทศไทย โดยการบวกราคาเพิ่มจากเดิมเพื่อเอากำไร หรือเรียกกันติดปากว่า “เครื่องหิ้ว” นั่นเอง
มาดูกันครับว่าราคาของ iPhone 5 (ราคาแบบซื้อขาด ไม่ติดสัญญา) ในที่วางขายในแต่ละประเทศ (ล๊อตแรก) มีราคาเท่าไรกันบ้าง
สิงคโปร์
- iPhone 5 ขนาด 16 GB : 948 ดอลลาร์สิงคโปร์ คิดเป็นเงินไทย 23,900 บาท
- iPhone 5 ขนาด 32 GB : 1,088 ดอลลาร์สิงคโปร์ คิดเป็นเงินไทย 27,400 บาท
- iPhone 5 ขนาด 64 GB : 1,238 ดอลลาร์สิงคโปร์ คิดเป็นเงินไทย 31,200 บาท
ฮ่องกง
- iPhone 5 ขนาด 16 GB : 5,588 ดอลลาร์ฮ่องกง คิดเป็นเงินไทย 22,300 บาท
- iPhone 5 ขนาด 32 GB : 6,388 ดอลลาร์ฮ่องกง คิดเป็นเงินไทย 25,500 บาท
- iPhone 5 ขนาด 64 GB : 7,188 ดอลลาร์ฮ่องกง คิดเป็นเงินไทย 28,700 บาท
ฝรั่งเศส
- iPhone 5 ขนาด 16 GB : 679 ยูโร คิดเป็นเงินไทย 27,100 บาท
- iPhone 5 ขนาด 32 GB : 739 ยูโร คิดเป็นเงินไทย 29,500 บาท
- iPhone 5 ขนาด 64 GB : 849 ยูโร คิดเป็นเงินไทย 33,900 บาท
อังกฤษ
- iPhone 5 ขนาด 16 GB : 679 ปอนด์ คิดเป็นเงินไทย 26,400 บาท
- iPhone 5 ขนาด 32 GB : 599 ปอนด์ คิดเป็นเงินไทย 29,900 บาท
- iPhone 5 ขนาด 64 GB : 699 ปอนด์ คิดเป็นเงินไทย 34,900 บาท
สำหรับประเทศไทย ถ้าให้ผมเดา ผมขอเดาว่าน่าจะเท่าตอนที่ iPhone 4s เปิดตัวครับ คือในขนาด 16 GB จะมีราคาเริ่มต้นที่ 20,900 บาท //ส่วนคนที่ใจร้อนอยากได้เร็ว ด้วยการซื้อเครื่องหิ้ว ก็ลองบวกราคาเล่นๆ ดูได้ครับ เพราะคนที่หิ้วมาคงตั้งราคาขายไม่ต่ำกว่าข้างบนนี้แน่ๆ
ถ้าใครสนใจ iPhone แต่ไม่ยึดติดกับความใหม่หรือล้ำหน้าชาวบ้าน ยังมี iPhone 4 และ iPhone 4S ให้เป็นตัวเลือกนะครับ ที่เพิ่งมีการปรับลดราคาลงไป (รายละเอียด)
ที่มา – Apple Store Online