มาตามนัดไปเรียบร้อยสำหรับ iPhone ปี 2021 ที่ประกอบไปด้วยน้องเล็ก iPhone 13 mini, iPhone 13, iPhone 13 Pro และพี่ใหญ่ iPhone 13 Pro Max โดยในรอบนี้สองรุ่นหลังมาใน Concept “โปรสมชื่อ” จัดเต็มทั้งดีไซน์, กล้องถ่ายรูป, ชิปเซ็ต, แบตเตอรี่, และความจุที่ให้มาอย่างเต็มแม็กซ์ ในส่วนของรุ่นท็อปคือ iPhone 13 Pro Max นั้นจะน่าสนใจแค่ไหน เรารวบตึงข้อมูลเด่นๆ มาให้คุณแล้วในบทความนี้
สมาร์ทโฟนรุ่น iPhone 13 Pro Max มากับการออกแบบที่ยังคงรักษามาตรฐานของตัวเองเอาไว้ได้เป็นอย่างดีทั้งในเรื่องความหรูหราและทนทานด้วยกระจก Ceramic Shield กรอบเครื่องสแตนเลสสตีล กันน้ำได้ในระดับ IP68 และปกป้องเลนส์ด้วยกระจกแซฟไฟร์ และก็เป็นไปตามข่าวลือก่อนหน้านี้ที่รอยบากสำหรับติดตั้งกล้องหน้าและเซ็นเซอร์ลดลง 20% ทำให้กินพื้นที่บนหน้าจอน้อยลง
iPhone 13 Pro Max ได้หน้าจอแบบ Super Retina XDR ขนาดใหญ่เต็มตาที่ 6.7 นิ้ว พ่วงมาด้วยเทคโนโลยี ProMotion และอัตราการรีเฟรชที่ 120Hz สามารถปรับได้อัตโนมัติตามการใช้งานคอนเทนต์แบบต่างๆ เป็นหน้าจอที่มีสีสันสดใส รายละเอียดสมจริง กราฟิกลื่นไหล และยังปรับความสว่างได้สูงสุดถึง 1,000 nits ใครที่ชื่นชอบการแสดงผลที่ค่อนข้างสบายตา บนจอขนาดใหญ่ รุ่นนี้น่าจะตอบโจทย์ได้อย่างลงตัวเลยล่ะ
มาที่เรื่องของการประมวลผลกันบ้าง iPhone 13 Pro Max ได้ขุมพลังมาเป็นชิปเซ็ต Apple A15 Bionic ที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีระดับ 5nm ตัวแรงของปีนี้ โดยมี CPU แบบ 6 แกนสมอง และ GPU แบบ 5 แกนสมอง พ่วงมาด้วย Neural Engine ที่รับคำสั่งได้ถึง 15.8 ล้านรายการ/วินาที มีตัวทรานซิสเตอร์มากถึง 1.5 หมื่นล้านตัว เรียกว่าเร็วแรงและลื่นไหลทุการใช้งานแน่นอน โดยมีพื้นที่เก็บข้อมูลภายในให้เลือกตั้งแต่ 128 GB, 256 GB, 512 GB รวมถึงเป็นรุ่นแรกที่มาพร้อมความจุสูงสุดถึง 1 TB อีกด้วย
แน่นอนว่าไฮไลต์สำคัญของเจ้า iPhone 13 Pro Max ยังคงอยู่ที่การถ่ายภาพและบันทึกวีดีโอ โดยคุณสมบัติต่างๆ ของกล้องถ่ายรูปนั้นเรียกว่าจัดมาอย่างไม่เสียชื่อด้วยกล้องหน้า TrueDepth ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล กล้องหลัง 3 ตัวความละเอียด 12 ล้านพิกเซล มีครบทั้งเลนส์ Wide, เลนส์ Ultra-Wide และเลนส์ Telephoto พร้อมฟีเจอร์การถ่ายภาพและบันทึกวีดีโออัดแน่น อาทิ ระบบกันสั่นตัวใหม่ที่นิ่งกว่าเดิม การถ่ายภาพในที่แสงน้อยที่ดีขึ้น ถ่ายมาโครได้ใกล้สุดถึง 2 เซนติเมตร ถ่ายวีดีโอมาโครได้ ถ่าย Portrait มีลูกเล่นมากขึ้น ซูมได้ดีขึ้น พร้อมโหมดถ่ายวีดีโอ Dolby Vision สูงสุด 4K ที่ 60 fps คุณภาพระดับงานถ่ายภาพยนตร์
iPhone 13 Pro Max มากับตัวเครื่องในสีกราไฟต์, สีทอง, สีเงิน และสีใหม่ที่โดนใจใครหลายคนอย่างสีเซียร์ร่าบลูใหม่ สนนราคาแบ่งตามรุ่นย่อยดังนี้คือ
- รุ่นความจุ 128 GB ราคา 42,900 บาท
- รุ่นความจุ 256 GB ราคา 46,900 บาท
- รุ่นความจุ 512 GB ราคา 54,900 บาท
- รุ่นความจุ 1 TB ราคา 62,900 บาท
โดย iPhone 13 Pro Max จะเริ่มวางขายในบ้านเราตั้งแต่วันที่ 8 ตุลาคม นี้เป็นต้นไป ซึ่งทางค่ายมือถือต่างๆ ก็เริ่มมีโปรโมชั่นออกมาแล้ว ใครสนใจลองเข้าไปส่องกันดูและจับจองเป็นเจ้าของกันได้ รุ่นนี้บอกเลยว่าครบเครื่อง