อย่างที่ทราบกัน เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2561 ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ทางค่าย Huawei ได้ทำการเปิดตัวกับโทรศัพท์มือถือเรือธงรุ่น Huawei Mate 20 และ Mate 20 Pro ที่หลายๆคนรอคอย เซอร์ไพรส์ไปกว่านั้นทางค่ายได้เปิดตัวรุ่นพิเศษระดับพรีเมี่ยมอย่าง Huawei Mate 20X และรุ่น Porsche Design Mate 20 RS ในวันเดียวกัน
ซึ่งแน่นอนทางค่ายได้มีการพัฒนาสเปคและได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆให้สาวกได้ว้าวกันถึง 4 รุ่นด้วยกัน โดยเฉพาะ AI ที่ฉลาดขึ้นและกล้องที่พกลูกเล่นมาเยอะกว่าเดิม โดยได้รับการปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพอย่างน่าสนใจ ทั้งดีไซน์ และประสิทธิภาพการทำงานซึ่งวันนี้ทางทีมงาน iPriceThailand จะขอนำเสนอโทรศัพท์มือถือที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในเวลานี้ Huawei Mate 20 และ Mate 20 Pro จุดเด่นในแต่ละรุ่นมีอะไรกันบ้าง
สำหรับดีไซน์ Huawei Mate 20 น้องเล็กใน Mate 20 series ที่มาพร้อมกับหน้าจอไร้ขอบ โดยหน้าจอของ Huawei Mate 20 มีขนาดกว้างเต็มตาที่ 6.53 นิ้ว ความละเอียดคมชัดระดับ Full HD+ (2244 x 1080 พิกเซล) ความหนาแน่นพิกเซล 381ppi พร้อมแพนแนลจอแบบ RGBW ซึ่งมีจุดเด่นในด้านการประหยัดพลังงาน และความสว่างของหน้าจอสูงสุดถึง 820nits พร้อมกับเว้นพื้นที่ขอบจอด้านบนเอาไว้เล็กน้อยคล้ายกับทรงหยดน้ำเพื่อติดตั้งกล้อง และเซ็นเซอร์ต่างๆ
จุดเด่นของโทรศัพท์มือถือ Huawei Mate 20 ที่มาพร้อมกับกล้องหลังถึง 3 ตัว 3 เลนส์เข้าด้วยกัน ซึ่งทาง Leica ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการออกแบบและปรับปรุงกล้องให้มีความละเอียดเพิ่มมากขึ้น โดยสเปคกล้องของ Huawei Mate 20 ทั้ง 3 ตัว
- 16 ล้านพิกเซล (Ultra Wide Angle Lens(17mm) พร้อมรูรับแสง f/2.2)
- 12 ล้านพิกเซล (Wide Angle Lens (27mm) พร้อมรูรับแสง f/1.8)
- 8 ล้านพิกเซล (2x Telephoto Lens (52mm) พร้อมรูรับแสง f/2.4)
ในส่วนของกล้องหน้า มาพร้อมความละเอียด 24 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.0 ซึ่งหากลองสังเกตจะเห็นว่าที่ด้านบนของขอบหน้าจอมีการซ่อนลำโพงสำหรับสนทนาเอาไว้ด้วย
ขยับมารุ่นพี่อย่างตัว Huawei Mate 20 Pro นั้น มีจอ OLED ขอบโค้งขนาด 6.39 นิ้ว ความละเอียด 2K+ (3120×1440 พิกเซล) ที่มีความละเอียดของสีมากกว่า และอัตราส่วน 19.5:9 ซึ่งมีหน้าจอไร้ขอบเหมือนกับ Huawei Mate 20 แต่แตกต่างกันเล็กน้อยตรงบริเวณของกล้องหน้าที่ Mate 20 มีความคล้ายหยดน้ำ นอกจากนี้ ลำโพงคู่ยังได้รับการออกแบบให้ซ่อนอยู่ในตัวเครื่อง ผ่านพอร์ต USB-C ทำให้ดูสบายตา และมีศักยภาพดีมากอีกด้วย ความพิเศษของ Mate 20 Pro อีกอย่างของตัวนี้คือ Huawei Mate 20 และ Mate 20 Pro ได้รับการติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนนิ้วบนหน้าจอ โดยมีเทคโนโลยี Dynamic Pressure Sensing (DPS) รองรับแรงกดถึง 10 ระดับ ทำให้สามารถปลดล็อคตัวเครื่องได้เร็วขึ้นถึง 30%
ภาพจาก ManilaShaker
ส่วนสเปคกล้องของ Huawei Mate 20 Pro
กล้องหน้ามาพร้อมความละเอียด 24 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.0 พร้อมกับกล้องหลัง 3 ตัวจาก Leica เช่นกัน
โดยมีรายละเอียดดังนี้
- 40 ล้านพิกเซล (Ultra Wide Angle Lens(27mm) พร้อมรูรับแสง f/1.8)
- 20 ล้านพิกเซล (Wide Angle Lens (16mm) พร้อมรูรับแสง f/2.2)
- 8 ล้านพิกเซล (2x Telephoto Lens (52mm) พร้อมรูรับแสง f/2.4)
ความสามารถของกล้องหลังที่ถูกพัฒนามาอีกขั้นคือ สามารถดัน ISO ได้สูงถึง 102400 ทำให้เก็บรายละเอียดได้ดีกว่าแบรนด์อื่นที่มี ISO น้อยกว่า 6400 และเสริมศักภาพด้วย AI ทำให้ภาพออกมาเนียนมากยิ่งขึ้น และเทคโนโลยี Super HDR ที่ถูกนำมาใช้ในกล้อง ทำให้ภาพมีมิติมากขึ้นและสามารถเก็บรายละเอียดทั้งหน้าและหลังอย่างคมชัด
นอกจากนี้แล้ว Huawei Mate 20 และ Mate 20 Pro ยังเพิ่มลูกเล่นในกล้องหน้าให้สามารถสแกนสิ่งของให้เห็นเป็นโมเดล 3 มิติ ด้วยเทคโนโลยี AR โดยเป็นผลมาจากการพัฒนาร่วมกับแพลตฟอร์ม AR Core ของ Google และพิเศษสุดๆ สำหรับความสามารถของ AI ที่ถูกพัฒนามาในสองรุ่นนี้คือ สามารถถ่ายรูปอาหารหรือผลไม้ พร้อมทั้งคำนวณแคลอรี่อาหารได้อีกด้วย
เท่านั้นยังไม่พอ Huawei Mate 20 และ Mate 20 Pro ได้รับการอัพเกรดแบตเตอรีเป็น 4,000 และ 4,200 mAh พร้อมเทคโนโลยี SuperCharge กำลังไฟ 40 วัตต์ ที่ทำให้ชาร์จได้เร็วขึ้นอย่างชัดเจน และเร็วกว่าแบรนด์อื่นถึง 440% นอกจากนี้ยังมาพร้อมเทคโนโลยีชาร์จไร้สาย และแท่นชาร์จ กำลังไฟ 15% ซึ่งชาร์จได้เร็วกว่าแบรนด์อื่นถึง 77% และยังสามารถปล่อยแบตเตอรี่ไปยังสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นที่รองรับการชาร์จไร้สายได้
เป็นอย่างไรกันบ้างครับสำหรับข้อมูลที่เราได้นำมาเสนอในวันนี้ ซึ่งเราได้เห็นกันแล้วว่าโทรศัพท์มือถือเรือธงจากค่าย Huawei ได้ก้าวข้ามขีดจำกัดและฉีกกฏเดิมๆจากสมาร์ทโฟนค่ายอื่นๆ ไปอีกขั้นแล้ว
ผู้เขียน อัฎฮา เหล็มหนู iPrice