รีวิว Huawei Ascend P7 (ตอนที่ 1) : สมาร์ทโฟน 4G ดีไซน์บางเฉียบ !
Huawei อีกแบรนด์จากจีนแผนดินใหญ่ที่เข้ามาทำตลาดในไทยมาสักพักแล้ว ได้เปิดตัว Ascend P7 สมาร์ทโฟนรุ่นเรือธง (flagship) ตัวใหม่ล่าสุดประจำปี 2014 ที่ทำออกมาได้น่าสนใจทั้งในเรื่องของการออกแบบและฟีเจอร์การใช้งานต่างๆ ซึ่งผมจะมารีวิวให้ผู้อ่านทุกท่านได้รับชมกันตอนนี้เป็นตอนแรก ให้ได้ทำความรู้จักกับ Huawei Ascend P7 กันแบบคร่าวๆ ก่อน …เชิญชมกันได้ครับ
อย่างที่ผมได้จั่วหัวไว้เลยครับว่า Ascend P7 นั้น มีจุดขายตรงที่ดีไซน์ของตัวเครื่องมีความสวยงามระดับพรีเมี่ยม โดยมีขนาดบางเฉียบเพียง 6.5 มิลลิเมตร อีกทั้งยังรองรับการเชื่อมต่อผ่านเครือข่าย 4G ได้อีกด้วย จนได้รับการขนานนามว่าเป็น “มือถือ 4G ที่บางที่สุด” ในโลก ณ ตอนนี้เลยก็ว่าได้
ก่อนที่จะไปชมรีวิวการแกะกล่องเจ้า Ascend P7 ผมจะขอมาสรุปรายละเอียดของสเปคให้ทุกท่านได้รับทราบกันก่อน ดังนี้ครับ
สเปค Huawei Ascend P7
- หน้าจอขนาด 5 นิ้ว ความละเอียด 1080 x 1920 พิกเซล
- กระจกหน้าจอ Gorilla Glass 3
- ซีพียู Quad-core 1.8 GHz Cotex-A9
- แรม 2 GB
- ความจุภายใน 16 GB (สามารถใส่ microSD ได้สูงสุด 64 GB)
- กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล
- กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล
- รองรับ 2G, 3G และ 4G ทุกเครือข่ายในประเทศไทย
- รองรับ NFC
- แบตเตอร์รี่ 2,500 mAh battery (ไม่สามารถถอดฝาหลังได้)
- ตัวเครื่องหนาเพียง 6.5 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 124 กรัม
- มีให้เลือก 3 สี : ขาว ดำ ชมพู (ในไทยมีขาวกับดำ)
- ระบบปฏิบัติการ Android 4.4.2 (KitKat)
ดูรายละเอียดสเปคกันไปแล้วต่อไปก็มีเริ่มแกะกล่องและรีวิวตัวเครื่อกันได้เลยครับ …สำหรับกล่องที่บรรจุเจ้า Ascend P7 มานั้น ออกแบบมาได้เล็กกระทัดรัดดีมากครับ โดยสามารถแกะเทปกาวที่ล็อกไว้แล้วดึงริบบิ้นขาวข้างๆ กล่องเพื่อเปิดกล่องครับ
ดึงออกมาแล้วหน้าตาข้างในกล่องก็ประมาณนี้ครับ
ตัวเครื่องวางอยู่ในหลุมของกล่องชั้นบน มีกระดาษคาดล็อกตัวเครื่องไว้อีกชั้น
แกะกระดาษที่คาดไว้ออก แล้วดึงกระดาษใต้ตัวเครื่อง เมื่อดึงตัวเครื่องขึ้นออกมาจากหลุมครับ
เปิดกล่องไปอีกชั้นก็จะเป็นในส่วนของคู่มือและอุปกรณ์เสริมต่างๆ ที่แถมมาให้ครับ
ด้านซ้ายเป็นกล่องใส่อุปกรณ์เสริม ส่วนด้านขวาเป็นกล่องคู่มือ
ใบรับประกันและคู่มือการใช้งาน
มีแท็ก NFC มาให้ด้วย (เอาไว้ใช้ยังไงเดี๋ยวะมาบอกในตอนต่อไปครับ)
อุปกรณ์เสริมที่มีมาให้ ได้แก่ หูฟัง สาย USB และอะแดปเตอร์
มาดูที่ตัวเครื่องกันบ้างครับ …อย่างที่บอกไว้ในตนต้นว่า Ascend P7 นั้นหน้าจอขนาดกว้าง 5 นิ้ว โดยกระจกหน้าจอเป็น Gorilla Glass 3 รุ่นใหม่ล่าสุด ป้องการรอยขีดข่วนหรือรอยขนแมวเล็กๆ น้อยๆ ได้ดีกว่าเดิมครับ
การดีไซน์ตัวเครื่องของ Ascend P7 นั้น แบ่งการดีไซน์และชิ้นส่วนต่างๆ ออกเป็น 7 เลเยอร์นำมาประกอบกัน ทำให้ตัวเครื่องมีดีไซน์สวยงาม บางเฉียบและงานประกอบดูแข็งแรงหนาแน่นมากครับ
ด้านขวาของตัวเครื่องจะมีปุ่มควบคุมต่างๆ ได้แก่ ปุ่ม Power, ปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง และถาดสำหรับใส่ซิม และช่องใส่ MicroSD Card ครับ
ด้านขวาของตัวเครื่องจะเป็นแถบอลูมิเนียมสีเงินเรียบยาวครับ ไม่มีปุ่มใดๆ
และที่น่าสังเกตคือเอกลักษณ์ของการออกแบบ Ascend P7 ตรงขอบด้านล่างของตัวเครื่องจะมีลักษณะโค้งมน โดนทาง Huawei ได้บอกว่าเป็นการออกแบบที่เลียนรูปร่างของ “หยดน้ำ”
ขอบด้านบนเป็นทรงสี่เหลี่ยมตัดมุมให้มนๆ เล็กน้อย
ด้านข้างอีกรูป
ช่องเสียบหูฟังขนาดมาตราฐานอยู่ด้านบน
ด้านล่างเป็นช่องเสียสายไมโคร USB
พื้นผิวด้านหลังของตัวเครื่องนั้น เคลือบด้วยกระจกชั้นนอกสุดครับ ทำให้เวลาจับรู้สึกได้ถึงความพรีเมี่ยมเลยทีเดียวครับ !
กล้องหลัง และ LED Flash
โดยรวมแล้วการออกแบบตัวเครื่องของ Ascend P7 ทำออกมาได้เหรียบหรู พรีเมี่ยมสมคำโฆษณาของ Huawei จริงๆ ครับ ให้ความรู้สึกใกล้เคียงกับดีไซน์ของค่ายผลไม้เลย
หน้าจอ 5 นิ้วสำหรับยุคนี้เรียกว่ากำลังพอดีมือเลยครับ จับได้เต็มไม้เต็มมือไม่หลุดมือง่ายๆ
รีวิวในส่วนของตัวเครื่องและการดีไซน์ไปแล้ว ต่อมาจะมาพูดถึงอีกจุดเด่นของ Ascend P7 นั่นคือ ความสามารถในการรองรับการใช้งานคลื่น 4G ครับ ซึ่งในปัจจุบันเรียกว่ายังมีมือถือไม่กี่รุ่นที่รองรับการใช้งานร่วมกับเครือข่าย 4G
การใส่ซิมการ์ดก็ไม่ยากครับ ด้วยการนำเข็มที่แถมมาให้แทงเข้าไปตรงรูของถาดซิม(ถาดล่าง) ถาดก็จะเด้งออกมาให้เราใส่ซิมเข้าไป (ส่วนถาดบนเป็นถาดใส่ MicroSD Card ครับ)
ใส่ซิมแล้วเปิดเครื่องขึ้นมา พบโลโก้ของ Huawei Ascend และ Android
UI หน้าจอของ Huawei Ascend P7 (สำหรับในส่วนของระบบภายในนั้นเดี๋ยวผมจะขอข้ามไปกล่าวถึงในตอนถัดไปครับ)
หน้าตั้งค่าและรายละเอียดเครื่อง
ทดสอบการใช้งานระบบ 4G ก่อนเลยครับว่าจะเร็วและแรงขนาดไหน !!
เปรียบเทียบกับความเร็วของ 3G
จะเห็นว่าการเชื่อมต่อผ่านเครือข่าย 4G นั้นทำให้การใช้งานดาต้าทั้งรับและส่งข้อมูลสามารถทำได้เร็วกว่า 3G อยู่พอสมควรครับ และ Huawei Ascend P7 นั้น มีฟีเจอร์ 3G/4G Switching ให้เราสามารถเลือกเปิด/ปิด การใช้งาน 4G ได้ด้วย เผื่อใครต้องการประหยัดการใช้งานแบตเตอร์รี่
ในซีรีส์รีวิว Huawei Ascend P7 ตอนแรกนี้ ผมก็ต้องขอจบที่ในส่วนของการแนะนำตัวเครื่องและทดสอบประสิทธิภาพ 4G ก่อน โดยรีวิวในส่วนอื่นๆ อย่างเช่นกล้องถ่ายภาพ ระบบภายใน หรือฟีเจอร์ที่น่าสนใจอื่นๆ จะขอมารีวิวในตอนหน้าครับ
โดยเฉพาะเรื่องกล้องถ่ายภาพต้องบอกว่าผลทดสอบทำออกมาได้ดีเกินความคาดหมายเลยทีเดียว …ทิ้งท้ายโพสต์นี้ ผมจะขอเอาภาพตัวอย่างจากกล้องของ Huawei Ascend P7 มาให้ชมกันคร่าวๆ 2 ภาพครับ ตอนหน้าจะมารีวิวเรื่องกล้องฉบับเต็ม !!
สำหรับคนที่สนใจ ตอนนี้ Huawei Ascend P7 ก็เริ่มวางจำหน่ายแล้ว ในราคา 14,990 บาท ใครสนใจลองไปทดลองเล่นหรือหาซื้อได้ตามช็อปขายมือถือกันได้เลยครับ !! …อย่าลืมติดตามรีวิวตอนต่อไปนะครับ เร็วๆ นี้