Gmail Tip: ใช้เครื่องหมายจุด(.) และบวก(+) ในที่อยู่ของ Gmail เราให้เป็นประโยชน์


จะมาแนะนำทปสำหรับคนใช้ Gmail (บริการฟรีอีเมล์ ขั้นเทพจาก Google) ซึ่งทิปนี้ผมเชื่อว่าผู้ที่คร่ำหวอดในการใช้ Gmail น่าจะรู้กันดี แต่ก็อาจมีหลายๆคนยังไม่รู้นั่นคือ การใช่เครื่องหมายจุด(.) และเครื่องหมายบอก(+) ในที่อยู่อีเมล์ของเราให้เกิดประโยชน์ และช่วยอำนวยความสะดวกแก่เรามากยิ่งขึ้น ซึ่งคุณสมบัตินี้มีเฉพาะ Gmail เท่านั้น เจ้าอื่น(ยัง)ไม่มี

อย่างที่บอก คุณสมบัติพิเศษนี้ไม่มีในผู้ให้บริการฟรีอีเมล์รายอื่นนอกจาก Gmail
สมมุติ ผมสมัคเมล์ บัญชี่หนึ่งไว้ชื่อว่า [email protected]
ผมสามารถใช่เครื่องหมายจุด ( . ) แทรกระหว่างตัวอักษรของที่อยู่อีเมล์ผมได้ ซึ่งถือว่าชื่อทั้งหมดเหล่านั้น เป็นที่อยู่องอีเมล์ของผมเมล์เดียว เช่น
[email protected]
[email protected]
[email protected]
[email protected]
– และการใส่จุดแบบอื่นๆ

ซึ่งชื่ออีเมล์ทั้งหมดด้านบนนี้ก็คือบัญชีเดียวกันกับ [email protected] ผมสามารถที่จะ
– ล็อกอินเข้าสู่ระบบโดยชื่อใดก็ได้ด้านบนนี้

– คนอื่นสามารถส่งเข้ามาในที่อยู่แบบใดก็ได้ ผลสุดท้ายอีเมล์เหล่านั้นก็เข้ามาอยู่ที่บัญชีเดียวกัน ([email protected])

อีกความสามารถของ Gmail ที่ผมได้เกริ่นไปตอนต้นคือ การใช้เครื่องหมายบวก ( + ) แทรกหลังชื่อที่อยู่อีเมล์ของเรา
เช่น ผมสมัคเมล์ บัญชี่หนึ่งไว้ชื่อว่า [email protected]
ผมสามารถเติมเครื่องหมาย + ที่หลังชื่ออีเมล์ของผมเป็นคำหรือตัวอักษรใดก็ได้ เช่น
– thaneinth+play@gmail.com
– thane.in.th+work@gmail.com
– thaneinth+friend@gmail.com
– ta.na.in.th+home@gmail.com
– thaneinth+facebook@gmail.com
– thaneinth+twitter@gmail.com
– และอีกหลายๆแบบ แล้วแต่จะตั้ง(ไม่ต้องมีความหมายก็ได้)
สมมุติ ผู้ที่ส่งเข้าเมล์ผมผ่าน – thaneinth+play@gmail.com อีเมล์นั้นๆก็จะเข้ามาที่ Inbox ของ [email protected] เช่นกัน !! (การใช้เครื่องหมาย + หลังชื่ออีเมล์ ไม่สามารถนำมาล็อกอินได้นะครับ)

ทั้งสองคุณสมับิตนี้ไม่ว่าจะเป็นเครื่องหมายจุด หรือเครื่องหมายบวกนั้นมีประโยชน์ให้กับการใช้อีเมล์ของเราอย่างมาก ยกตัวอย่างเราจะเปรียบเสมือนมีชื่ออีเมล์หลายชื่อ(ใน Account เดียว)ซึ่งสามาถนำไปประยุกตต์ใช้ในเหตุการต่างๆ เช่น สมัครสมาชิกเว็บไซต์ที่ห้ามใช้อีเมล์เดียวกัน (ระบบเว็บไซต์โดยทั่วไป [email protected] กับ [email protected] ถือเป็นคนละบัญชีกัน)

และโดยเฉพาะอย่างยิ่งการตั้ง Fillter หรือตัวกรองอีเมล์ เพื่อจัดการกับอีเมล์ที่ส่งมาให้เราให้เกิดประสิทธิภาพ

ยกตัวอย่างการใช้งานของผม
ผมสมัคร [email protected]

อีเมล์ที่ผมใช้สมัคร Facebook จะใช้ [email protected] ผมก็เข้าไปตั้ง Fillter ใน Gmail ว่าถ้ามีอีเมล์ส่งเข้ามาให้ผม ผ่าน [email protected] ก็ให้ Label เป็นสีแดงกับเมล์ฉบับนั้นว่า “Facebook” เป็นต้น
หมายเหตุ: จะมีบางเว็บไซต์(เป็นส่วนน้อย)ที่ไม่รองรับหารใช้เครื่องหมายบวก ในชื่ออีเมล์ แต่เครื่องหมายจุด สารมารถใช้งานได้ทุกเว็บครับ
ภาพตัวอย่างการตั้งค่า Fillter อัตโนมัติ เพื่อใส่ Label ให้กับอีเมล์ต่างๆที่ส่งมาหาผม
(ใช้สีสัน แยกกนเป็นหมวดหมู ง่ายต่อการเรียกดู ค้นหา)

ลองไปเล่นกันดูนะครับ มีข้อสงสัยตรงไหนสอบถามได้ด้านล่างเลยครับ :D


ส่งต่อเรื่องนี้ให้เพื่อน!