หากใครที่กำลังคิดจะซื้อสมาร์ทโฟนในระดับสูง (Hi-End) ณ ตอนนี้ น่าจะมีโจทย์ใหญ่ๆ ให้คิดเป็นตัวเลือกกันอย่างน้อยอยู่ 2 ตัว ได้แก่ Apple iPhone 5 ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ iOS กับ Samsung Galaxy S4 ที่น่าจะเป็นตัวตายตัวแทนของทางฝั่งหุ่นเขียว Android ซึ่งทั้งสองรุ่นดังกล่าวได้มักจะถูกให้นำมาเปรียบเทียบหรือได้รับการสอบถามเข้ามาเป็นอย่างมาก และด้วยความที่ผมเคยใช้ทั้ง iPhone 5 กับ Galaxy S4 มาแล้ว จึงอยากจะนำทั้งสองรุ่นนี้มาเปรียบเทียบกันอีกรอบ โดยจะเน้นไปในเรื่องหลักๆ เนื้อๆ ใน 3 ส่วนด้วยกันคือ หน้าจอ, กล้อง และแบตเตอร์รี่
หน้าจอ
หน้าจอถือเป็นประเด็นแรกที่คนส่วนใหญ่มากให้ความสำคัญเป็นลำดับต้นๆ เนื่องจากเป็นส่วนสำหรับใช้ในการแสดงผลและสั่งการต่างๆ ผ่านการสัมผัส โดย iPhone มีขนาดความกว้างของจอที่ 4 นิ้ว ความละเอิยด 640 x 1136 พิกเซล ความละเอียด 326 ppi (Pixels per inch) ส่วน Galaxy S4 นั้น มีหน้าจอใหญ่กว่าที่ขนาด 5 นิ้ว ความละเอียดที่ 1080 x 1920 พิกเซล ให้ความละเอียดสูงถึงระดับ 441 ppi เลยทีเดียว
ซึ่งในแง่ของการใช้งานแล้ว ก็แน่นอนว่า Galaxy S4 จะให้พื้นที่การแสดงผลที่มากกว่า และกว้างกว่า iPhone อยู่พอประมาณ
โทนสีของ Galaxy S4 จะทำออกมาโทนเย็น ซึ่งแสงสีขาวและดำจะทาออกมาได้สนิทกว่าโดยในส่วนของ iPhone 5 จะทำออกมาให้สีดูเป็นธรรมชาติ โดยถ้าหากใครที่ชอบในจุดนี้และสีสรรน้อยไม่แสบตาแล้วละก็ ตัวเลือก iPhone 5 น่าจะทำได้ดีกว่าครับ
กล้อง
iPhone 5 นั้นมีกล้องหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล กล้องหน้าที่ 1.2 ล้านพิกเซล ส่วน Galaxy S4 มีจำนวนพิกเซลมากกว่าที่ 13 ล้านพิกเซล และกล้องหน้าที่ 2 ล้านพิกเซล
เมื่อพูดถึงเรื่องกล้องถ่ายภาพของทั้ง iPhone 5 และ Galaxy S4 ให้เถียงกันไป 3 วันก็คงไม่จบว่าอันไหนดีกว่ากันแบบชี้ขาด ถึงแม้ Galaxy S4 จะมีจำนวนพิกเซลมากกว่า iPhone 5 ก็จริงแต่ ผลงานที่ได้ออกมานั้นต้องบอกว่ากินกันไม่ลงครับ แล้วแต่ความชอบส่วนตัวของแต่ละคนมากกว่า
โดยส่วนตัวผมแล้วคิดว่า Galaxy S4 จะให้โทนสีของภาพที่สว่างและสดใส ส่วน iPhone 5 ให้สีออกมาได้สดออกโทนเข้มๆ
ส่วนในสถาณการณ์ของการถ่ายภาพในที่ที่มีแสงน้อยแล้ว iPhone 5 ค่อนข้างทำผลงานได้ดีกว่าอย่างให้ได้ชัดครับ
ถ่ายในที่แสงน้อยโดยการไม่ใช้แฟลช
ถ่ายในที่แสงน้อยโดยการใช้แฟลช
(ที่มารูปภาพ)
แต่ถ้าหากมาดูในเรื่องฟีเจอร์หรือซอฟต์แวร์ของกล้องแล้ว คงต้องยกให้ Galaxy S4 เหนือกว่าครับ เพราะทางซัมซุงได้อัดฟีเจอร์ต่างๆ อย่างเช่น Dual Shot, Sound & Shot, Drama Shot และ Animated Photo มาให้แบบครบครัน (อ่านเรื่องฟีเจอร์สำหรับกล้องถ่ายภาพของ Galaxy S4)
ส่วนทางฝั่ง iPhone นั้น ใน iOS 7 (ที่ยังอยู่ในช่วง Beta) ก็มีการเพิ่มความสามารถเกี่ยวกับกล้องมาเหมือนกัน ตัวอย่างเช่น การใส่ฟิลเตอร์ให้รูปภาพ, ซอฟต์แวร์สำหรับถ่ายภาพ Panorama และการถ่าย Video แบบใหม่ เป็นต้น ส่วนจะออกมาได้ดีขนาดไหนอันนี้ต้องรอ iOS 7 ตัวเต็มออกมาครับ
แบตเตอร์รี่
แบตเตอร์รี่ เป็นอีกประเด็นที่มักถูกนำมาใช้เป็นตัวชี้วัดในการเลือกสมาร์ทโฟน ซึ่ง iPhone 5 มีความจุของแบตเตอร์รี่ที่ 1,440 mAh ส่วน Galaxy S4 นั้นมีความจุมากกว่าที่ 2,600 mAh อันเนื่องขนาดพื้นที่หน้าจอของ S4 มีความกว้างกว่า เลยทำให้ใส่แบตเตอร์รี่ขนาดที่ใหญ่กว่าได้
โดยผลการทดสอบการใช้งานโทรศัพท์นั้น พบว่า Galaxy S4 สามารถทำได้ดีกว่า iPhone 5 มากกพอสมควร โดย S4 สามารถใช้โทรได้ 1,051 นาที โดย iPhone 5 ได้เพียง 499 นาทีเท่านั้น ส่วนถ้าวัดกันด้วยการใช้งานอินเทอร์เน็ตอย่างเดียวแล้ว S4 คงเหนือกว่าครับ
แต่ !! ถ้ามาดูการใช้งานจริงในภาพรวมตลอดทั้งวันแล้ว (โทร, เล่นเน็ต, เล่นเกม ใช้แอพต่างๆ ผ่านทั้ง 3G และ WiFi) ผลการทดสอบระบุว่า iPhone 5 จะทำผลงานได้ดีกว่า Galaxy 4 อยู่เล็กน้อยครับ
ส่วนอีกข้อได้เปรียบของ Galaxy S4 ในเรื่องแบตเตอร์รี่คือ หากรู้สึกว่าแบตเตอร์รี่เสื่อมสามารถถอด-เปลี่ยนแบตเตอร์รี่ที่อยู่ด้านหลังของตัวเครื่องได้ด้วยตัวเอง ส่วน iPhone 5 นั้นไม่สามารถทำได้ครับ
สรุป
จากการเปรียบเทียบ iPhone 5 และ Galaxy S4 ทั้ง 3 ประเด็นด้านบน จะเห็นว่าในแต่ละหัวข้อไม่มีใครกินใครได้ลง ยกตัวอย่างเช่น เรื่องของสเปค, หน้าจอ และแบตเตอร์รี่ที่ Galaxy S4 สามารถทำได้ดีกว่า แต่ในบางเรื่องอย่างเรื่องของกล้องถ่ายภาพ iPhone 5 ก็ยังสามารถทำผลงานออกมาได้สูสี (หรืออาจจะเหนือกว่าเล็กน้อย) ถึงแม้จะเปิดตัวก่อน S4 ถึง 7 เดือนด้วยกัน
ดังนั้นถ้าจะถามว่า ทั้งสองรุ่นนี้ควรซื้อรุ่นไหนดี คงต้องบอกว่าเลือกตาม OS แล้วหล่ะครับ ถ้าชอบ iOS ที่ความเรียบง่ายน่าจะเหมาะสมกับ iPhone 5 แต่ถ้าชอบความเก่ง, ชอบที่ความสามารถในการตกแต่งได้ดั่งใจตามแบบฉบับของ Android แล้ว Galaxy S4 ถือว่าเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดครับ