หลังจากที่ผมได้ใช้และเปิดซีรีส์การรีวิวสมาร์ทโฟนในรุ่นใหญ่อย่าง Galaxy S4 ไปได้ 3 สัปดาห์ ซึ่งกินความยาวไปทั้งหมดกว่า 6 ตอน และยังมีตอนพิเศษอีก 1 ตอน โดยผมได้เริ่มแนะนำไปตั้งแต่เรื่องฮาร์ดแวร์, ซอฟต์แวร์เบื้องต้น, ฟีเจอร์สุดเจ๋ง, ฟังก์ชันพิเศษ และแนะนำแอพพลิเคชั่นที่น่าสนใจไปแล้ว มาวันนี้ก็จะเป็นตอนบทสรุปสุดท้ายของการรีวิวเสียทีครับ ซึ่งผมจะขอมาเล่าทั้งประสบการณ์ ความประทับใจ ตลอดจนข้อดี-ข้อด้อย ของ Galaxy S4 ให้ได้อ่านกันครับ …แต่ก่อนอื่น ถ้าใครพลาดหรือยังไม่ได้อ่านบทความในตอนก่อนหน้า ก็สามารถคลิกเข้าไปอ่านย้อนหลังได้จากลิงก์ด้านล่างนี้เลยครับ
- ตอนที่ 1 : ทำความรู้จักเบื้องต้น
- ตอนที่ 2 : วัสดุ, การออกแบบ และหน้าจอ
- ตอนที่ 3 : ซอฟต์แวร์พื้นฐาน
- [ตอนพิเศษ] เหตุผลที่ควรเลือก Galaxy S4 มากกว่าสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ
- ตอนที่ 4 : แนะนำฟีเจอร์สุดเจ๋ง
- ตอนที่ 5 : ฟังก์ชันพิเศษ (Smart Pause, Air View และอื่นๆ)
- แนะนำฟีเจอร์ของ Galaxy S4 ที่เหมาะกับผู้หญิงและผู้ชาย
บทความตอนที่ผมยกให้เป็นจุดสำคัญที่สุดของการรีวิวครั้งนี้ คือในตอนที่ 4 และ 5 ครับ ซึ่งเป็นในเรื่องของฟีเจอร์พิเศษทางด้านซอฟต์แวร์ที่ซัมซุงได้ใส่มาให้ ไม่ว่าจะเป็น ฟีเจอร์ทางด้านกล้องถ่ายภาพอย่าง Dual Shot ที่สามารถใช้ถ่ายภาพทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังได้พร้อมกัน, Sound & Shot การถ่ายภาพนิ่งพร้อมบรรยากาศของสถานที่นั้นๆ ไปด้วย และ Drama Shot การนำภาพนิ่งหลายๆ ภาพมาซ้อนกันเป็นภาพเดียว เป็นต้นโดยนอกจากฟีเจอร์ทางด้านกล้องแล้ว Galaxy S4 ยังมีฟีเจอร์เฉพาะต่างๆ ที่อาศัยการทำงานร่วมกันระหว่างตัวซอฟต์แวร์และระบบเซนเซอร์ต่างๆ ภายในตัวเครื่องอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น Smart Pause, Smart Scroll, Air View หรือ Air Gesture เป็นต้น
ด้วยฟีเจอร์ที่ทางซัมซุงอัดมาให้ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นว่า ในปัจจุบันการแข่งขันทางด้านฮาร์ดแวร์เริ่มจะอิ่มตัว หลายค่ายเริ่มหันมาสร้างมูลค่าเพิ่มทางด้านซอฟต์แวร์และอัดฟีเจอร์ที่น่าสนใจมาให้ผู้ใช้กันมากกว่า (ดังที่ผมได้เคยกล่าวไว้ในบทความตอนที่ 4) ดังจะเห็นได้ว่าสมาร์ทโฟนระดับท็อบจากหลายยี่ห้อเดี๋ยวนี้ สเปคภายในแทบไม่แตกต่างกัน แต่จะวัดความสามารถกันด้วยฟีเจอร์และบริการเสริมต่างๆ มากกว่า ซึ่งในจุดนี้ Galaxy S4 ก็ทำคะแนนได้ดีไม่น้อยหน้ากว่าสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ เลยครับ
โดยฟีเจอร์แต่ละอย่างที่ซัมซุงได้ใส่มาให้ ต้องบอกว่าส่วนใหญ่สามารถใช้งานได้จริงครับ ยกตัวอย่างเช่น ผมชอบใช้ Air Gesture ที่ทำให้เราสามารถรับโทรศัพท์หรือดู Notification ต่างๆ ได้โดยที่ไม่ต้องใช้นิ้วมือสัมผัส (ในกรณีที่มือเปียกขณะอยู่ในห้องน้ำ) หรือแอพ Whact On ก็สามารถใช้เป็นรีโมตควบคุมทีวีได้จริงๆ เป็นต้น
และสิ่งที่ผมประทับใจมากที่สุดคงต้องยกให้ในเรื่องของหน้าจอครับ ที่ Galaxy S4 สามารถให้การแสดงผลได้อย่างคมชัดและใหญ่เต็มจอแบบ Full HD ทำให้แต่ก่อนที่ผมไม่ค่อบชอบดู Youtube หรือวีดิโอต่างๆ ในสมาร์ทโฟนเพราะคิดว่าหน้าจอมันเล็ก รู้สึกไม่เต็มตา แต่เดี๋ยวนี้ Galaxy S4 ทำให้ผมได้ประสบการณ์ของการดูวีดิโอบนสมาร์ทโฟนได้ดีเลยทีเดียวครับ
ก่อนที่จะจบการรีวิวครั้งนี้ ผมก็ขอมาสรุปทั้งจุดเด่นและจุดด้อยของ Galaxy S4 จากประกบการณ์การใช้งานส่วนตัว ให้ผู้อ่านได้ทราบกันครับ
จุดเด่น
- สเปคแรง เล่นได้แทบทุกแอพทุกเกม
- หน้าจอใหญ่ Full HD
- ฟีเจอร์เพียบ (Drama Shot, Dual Camera, Sound & Shot และอื่นๆ อีกมากมาย)
- Multi Window ทำงานแบบ Multi Task ได้สมบูรณ์แบบ
- แถมบริการพ่วงต่างๆ มาให้ (Dropbox 50 GB, TOT iptv, Galaxy Gift)
จุดด้อย
- เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์เบาไปนิด ถ้าวางหงายจออยู่ เพราะลำโพงอยู่ด้านหลังเครื่อง
- เมื่อเรียกใช้กล้องถ่ายรูป ครั้งแรกจะโหลดนาน ประมาณ 3-5 วิ แต่ถ้าเปิดแล้วก็ถ่ายแบบรัวๆ ได้ดี
- ด้านหลังของตัวเครื่องค่อนข้างร้อน เมื่อดูวีดิโอนานๆ
*หมายเหตุ : ทั้งในเรื่องของข้อดีและข้อกด้อย ผมได้สรุปไว้ในตอนท้ายของแต่ละบทความแล้ว ใครสนใจดูในเรื่องไหนก็ตามเข้าไปอ่านในตอนเก่าๆ ได้เลยครับ
สรุป
Galaxy S4 ถือเป็นสมาร์ทรุ่นเรือธง (Flagship) ที่ไม่ใช่เฉพาะของซัมซุง แต่เปรียบเสมือนหัวเรือใหญ่ของทางฝั่งแอนดรอยด์เลยก็ว่าได้ เปรียบง่ายๆ คือ ถ้าพูดถึงสมาร์ทโฟนในระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ ณ ตอนนี้ คงไม่มีรุ่นไหนโดดเด่นไปกว่า Galaxy S4 ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของสเปคที่เรียกว่าใส่มาให้แบบจัดเต็ม และยังมีการเพิ่มมูลค่าด้วยฟีเจอร์ต่างๆ ทางด้านซอฟต์แวร์อีกเพียบ ดังนั้นถ้าจะให้แนะนำสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ระดับสูงในตอนนี้ คงต้องขอยกให้กับ Samsung Galaxy S4 แน่นอนครับ
***บทความนี้เป็นบทความ Advertorial