ใครที่กำลังมองหากล้อง Mirrorless ในครึ่งหลังของปี 2018 นี้ เชื่อว่าหนึ่งในช้อยส์ที่ต้องถูกนำมาพิจารณาคงจะมี Canon EOS M50 ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อตอนต้นปีนี้ด้วย ซึ่งผมก็มีโอกาสได้ลองจับ และเล่น EOS M50 มาคร่าวๆ แล้ว เลยถือโอกาสมารีวิวไว้เผื่อใครจะดูเป็นข้อมูลก่อนตัดสินใจซื้อครับ
Canon EOS M50 มาพร้อมกับเลนส์ Kit ช่วง 15-45 mm ระยะมาตรฐานทั่วไป หรือถ้าใช้เซลฟี่กำลังพอดี ทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ โดยตัวกล้องใช้ระบบประมวลผลภาพ DIGIC 8 สามารถรองรับความไวแสง ISO ได้สูงถึง 25600 และรองรับการถ่ายภาพต่อเนื่องที่เร็วถึง 10 fps
เมื่อประกอบเลนส์ Kit เข้ากับตัวกล้องแล้วขนาดก็ยังดูไม่ใหญ่เทอะทะ
สำหรับผมที่มี EOS 700D ที่เป็น DSLR อยู่แล้ว มาวางเทียบกัน จะเห็นว่า EOS M50 ขนาดเล็กและพกพาได้ง่ายกว่าพอสมควรเลยทีเดียวครับ
EOS M50 มาพร้อมช่องมองภาพอิเล็กทรอนิกส์ (EVF) และจอ LCD ระบบสัมผัสขนาด 3 นิ้ว ที่สามารถปรับหมุนได้
เปิดให้งานจอ LCD ได้โดยการพลิกออกมาที่ด้านข้าง
จากนั้นหมุนและพับกลับเข้าไปที่เดิม ก็จะได้จอสำหรับมองภาพ
ถ้าจะถ่ายเซลฟี่หรือทำวิดีโอแบบ VLOG สามารถปรับหมุนให้จอมาอยู่ที่ด้านข้างและหันมาทางเราได้ ซึ่งข้อดีของการที่พับจอมาอยู่ด้านข้างเวลา ถ่ายเซลฟี่หรือ VLOG ก็คือสายตาเวลาเราเหลือบไปมองจอ จะยังคงอยู่ระดับเดียวกับเลนส์ ต่างกับบางรุ่นที่พับจอไปที่ด้านบนหรือด้านล่าง ซึ่งนอกจากจะหลอกสายตาแล้ว อาจจะทำให้มีปัญหากับอุปกรณ์ต่อพ่วงหรือกิมบอลอีกด้วย
EOS M50 มีแฟลชมาให้ในตัว ซึ่งการเปิดใช้งานสามารถทำได้โดยใช้มือดึงตัวปล่อยแฟลชขึ้นมาได้เอง ไม่ต้องไปตั้งค่าเปิด-ปิดในตัวระบบ
ส่วนด้านบนก็มีช่องสำหรับให้ต่อแฟลชนอก หรือเสียบไมโครโฟนได้
EOS M50 ถูกออกแบบมาให้สามารถใช้งานได้ ด้วยมือเดียว ดังนั้นปุ่มควบคุมการทำงานต่างๆ จึงถูกจับมากองอยู่รวมกันอยู่ตรงฝั่งขวามือ
ใช้มือถือได้สบายๆ ครับ เหมาะกับตอนเจอสถานการณ์ด่วนๆ ปุบปับหยิบขึ้นมาถ่ายได้ทันทีด้วยมือด้วย
ด้านบนมีปุ่มปิดเปิด ปุ่มชัตเตอร์ ปุ่มถ่ายวิดีโอ และปุ่มสำหรับหมุนปรับโหมดต่างๆ
ด้านข้างฝั่งขวาก็มีช่องสำหรับต่อสาย HDMI ออกจอนอก หรือการ์ด capture เพื่อทำ Live ลงสื่อโซเชี่ยล และช่องสำหรับต่อสาย Micro USB สำหรับเชื่อมต่อกับเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อทำการโอนถ่ายข้อมูลได้
ส่วนด้านข้างฝั่งซ้าย มีช่องสำหรับสำหรับใส่ไมค์ขนาดมาตรฐาน 3.5 mm ไม่ต้องหา adapter แปลงไมค์ให้วุ่นวายครับ
ส่วนช่องสำหรับใส่หน่วยความจำ (SD Card) จะอยู่ด้านล่างตัวเครื่องใกล้แบตเตอร์รี่
แบตเตอร์รี่ EOS M50 มีความจุ 875mAh อาจจะดูน้อยไปนิด แต่ผมใช้พกไปถ่ายทั่วๆ ไปในชีวิตประจำวัน กดไปประมาณ 100++ รูป กลับมาตอนค่ำก็ยังคงอยู่ครับ (แต่เตือนแบตอ่อนนะครับ)
ดูตัวกล้องกันไปแล้ว คราวนี้มาดูฟีเจอร์ภายในกันบ้างครับ อีกจุดเด่นนึงของ M50 คือความสามารถในการโฟกัส แบบ Dual Pixel CMOS AF ที่จับจุดโฟกัสได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ และสามารถแสดงจุดโฟกัสได้ 88% หรือเกือบทั้งหน้าจอได้ในแนวนอน
ส่วนด้านการถ่ายภาพนิ่ง EOS M50 มาพร้อมกับฟีเจอร์ใส่ฟิลเตอร์ให้ภาพถ่ายแบบอัตโนมัติ (แสดงผลได้แบบ live view)
ยกตัวอย่างการปรับ brightness ให้รูปภาพ สามารถทำได้จากหลังกล้องเลยทันที
หรือการปรับระดับการละลายฉากหลัง เป็นต้น
ส่วนโหมดต่างๆ ที่มีให้เลือกในการถ่ายภาพมีดังนี้ครับ
โหมด A+ หรือโหมดออโต้ เหมาะกับการถ่ายแบบด่วนๆ ไม่ต้องคิดอะไร
โหมด P ที่ตัวกล้องจะปรับความเร็วชัตเตอร์และค่ารูรับแสงให้โดยอัตโนมัติ
โหมด TV สำหรับตั้งค่าความเร็วชัตเตอร์เอง เหมาะสำหรับการถ่ายภาพวัตถุเคลื่อนไหว หรือการเล่นกีฬา
โหมด AV เหมาะสำหรับถ่ายภาพบุคล ปรับระดับการเบลอฉากหลังได้
และโหมด M สำหรับการทั้งค่าด้วยตัวเองแบบแมนน่วล
EOS M50 รองรับการถ่ายภาพไฟล์ RAW แบบใหม่ หรือ CR3 RAW ได้อีกด้วย
ด้านการถ่ายวิดีโอกล้องตัวนี้ สามารถใช้ถ่ายความละเอียดแบบ 4K ที่ 24p/25p การทำ Time lapse แบบ 4K หรือจะใช้การดึงภาพนิ่งมาจากวิดีโอแบบ 4K (Frame Grab) ได้อีกด้วย
ปิดท้ายด้วยฟีเจอร์สำคัญ คือกล้องตัวนี้นอกจากจะรองรับการเชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi/NFC/บลูทูธ เหมือนกล้องทั่วไปแล้ว ยังมีฟีเจอร์ใหม่ Auto Transfer ช่วยให้โอนถ่ายภาพไปยังสมาร์ทโฟนได้ทันทีที่มีการถ่ายภาพใหม่ ไม่ต้องเสียเวลากดเลือกเพื่อโอนถ่ายภาพทีละภาพเหมือนก่อน ซึ่งปุ่มสำหรับเปิดการใช้งาน WiFi แบบด่วนๆ จะอยู่ตรงด้านข้างฝั่งขวาของกล้อง
สามารถเลือกเครื่องที่จะให้เชื่อมต่อได้จากหน้ากล้อง
โดยสามารถโฟนที่จะเชื่อมต่อกับกล้อง จะต้องติดตั้งแอพ Canon Camera Connect เสียก่อน (ดาวน์โหลดได้ฟรีครับ)
หรือถ้าเชื่อมต่อกับคอมก็สามารถใช้โปรแกรม Image Transfer Utility 2 เพื่อโยนไฟล์รูปภาพขึ้นไปแบ็คอัพบนคลาวด์ได้ทันทีเช่นเดียวกัน
ตัวอย่างภาพถ่าย
สรุป
ถ้าจะให้สรุปเกี่ยวกับเจ้า M50 สั้นๆ ต้องบอกตัวนี้เป็นกล้องที่มีขนาดกระทัดรัด ออกแบบมาให้สามารถใช้งานได้ด้วยมือเดียว เหมาะกับการไปเที่ยว หรือพกติดตัวเพื่อถ่ายในชีวิตประจำวันได้อย่างคล่องตัว โดยเฉพาะคนที่ต้องการทำ VLOG นับว่าเหมาะมาก ถ้าจะให้บอกจุดด้อยของกล้องตัวนี้ ผมมีติงอยู่ 2 เรื่องครับ คือขนาดแบตฯ ที่ค่อนข้างเล็ก ถ้าใครที่ต้องการเอาไปถ่ายหนักๆ ต่อเนื่อง อาจจะต้องพกแบตสำรองไปอีกก้อน และถ้าหากต้องการนำเลนส์ของ DSLR มาใส่จะต้องซื้อ adapter มาต่อเพิ่มอีก 1 ชิ้น (ราคาราวๆ 3 พันบาท)
สำหรับค่าตัวของ Canon EOS M50 (ประกันศูนย์ไทย) อยู่ที่ 25,990 บาท พร้อมเลนส์ Kit 15-45mm , มีให้เลือกสีขาว กับสีดำ