3G ติด FUP ความเร็วต้องไม่ต่ำกว่า 345 Kbps !! กสทช. ขอเวลาตรวจสอบอีก 1 เดือน

หลังจากที่ค่ายมือถือในไทยได้เริ่มให้บริการ 3G บนคลื่น 2,100 Mhz อย่างเป็นทางการไปเมื่อตอนต้นเดือน ซึ่งภายหลังทาง กสทช. ก็ได้เข้าไปควบคุมและดูแลการให้บริการของค่ายต่างๆ ว่าต้องทำตามกฏที่ได้ตกลงกันไว้ก่อนประมูลคลื่น คือ ต้องลดค่าบริการลงไปอีก 15% โดยล่าสุดทาง กสทช. ก็ออกมาประกาศแล้วว่า ทั้ง 3 ค่ายมือถือในไทยยอมให้ความร่วมมือกับมาตรการลดราคา 15% ไปเรียบร้อยแล้ว คือ ค่าโทรฯ ต้องอยู่ที่ 82 สตางค์ต่อนาที อินเทอร์เน็ต 28 สตางค์ต่อ MB, SMS 1.33 บาทต่อข้อความ และMMS 3.32 บาทต่อข้อความ

(ที่มารูปภาพ)

แต่ตอนนี้ยังมีอีกเรื่อง ที่ผู้บริโภคหลายคนกำลังเรียกร้องให้ กสทช. เข้าไปจัดการกับค่ายมือถือทั้ง 3 นั่นคือเรื่องของ FUP หรือ Fair Usage Policy ที่ทางค่ายมือถือจะจำกัดความเร็วของ 3G สำหรับผู้ที่ใช้แพ็คเกจ 3G แบบ Unlimited และได้ใช้อินเทอร์เน็ตหมดแพ็คเกจที่ซื้อไว้แล้ว โดยตามข้อตกลงของ กสทช. นั้นระบุว่าการใช้งานดาต้าผ่าน 3G นั้นจะกำหนดให้ความเร็วต่ำสุดต้องไม่ต่ำกว่า 345 kbps แต่ตอนนี้ค่ายมือถือหลายๆ ค่ายยังมีการให้บริการความเร็วขั้นต่ำ ที่ยังต่ำกว่ามาตรฐาน ยกตัวอย่างเช่น ของ AIS เวลาติด FUP จะเหลือความเร็วที่ 64 Kbps (ค่ายอื่นก็คล้ายๆ กัน)

ซึ่งในเรื่อง FUP นั้นทาง กสทช. ได้ขอเวลาในการตรวจสอบอีก 1 เดือน ก่อนที่จะมีประกาศหรือข้อบังคับใดๆ ออกมา …อ่านรายละเอียดของข่าวเพิ่มเติมได้จากลิงก์ที่มาครับ

สำหรับใครที่ไม่รู้จักกับ FUP หรือ Fair Usage Policy ทาง AIS ได้อธิบายไว้ดังนี้ครับ

“Fair Usage Policy” หรือ FUB คือ การปรับลดความเร็วของ 3G เมื่อผู้ใช้อินเทอร์เน็ตใช้งานเกินกำหนด ซึ่งเป็นนโยบายสากลที่กำหนดขึ้นเพื่อรักษามาตรฐานการใช้งาน 3G อย่างเหมาะสม ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้บริการ 3G ทุกคนสามารถใช้งานได้อย่างราบรื่น และเต็มประสิทธิภาพ

Fair Usage Policy เป็นนโยบายที่ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั่วโลกใช้เป็นมาตรฐานในการให้บริการใช้งานดาต้าของผู้ใช้งาน 3G เพื่อป้องการผู้ใช้งานบางรายนำไปใช้งานผิดวัตถุประสงค์ เช่น ใช้เป็นโมเด็มเพื่อดาวน์โหลด Bit Torrent เป็นต้น ทำให้ประสิทธิภาพการใช้งาน 3G โดยรวมลดลง และด้วยการคำนึงถึงประโยชน์ของลูกค้าส่วนรวมเป็นสำคัญ เอไอเอสจึงใช้หลักการนี้ในการให้บริการ 3G แก่ผู้ใช้งานผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่อย่างเหมาะสม

สาเหตุที่ต้องมีการกำหนด Fair Usage Policy นั้น เนื่องมาจากมีกลุ่มผู้ใช้งานส่วนหนึ่ง นำโปรโมชั่นการใช้งานอินเทอร์เน็ตบนเครือข่าย AIS 3G แบบไม่จำกัดไปใช้งานอย่างไม่ถูกต้อง เพื่อวัตถุประสงค์อื่นๆ อาทิ การนำไปใช้งาน Bit Torrent โดยใช้โทรศัพท์มือถือต่อเป็นโมเด็ม หรือต่อผ่านแอร์การ์ด (Bit Torrent เหมาะสมกับการใช้งานผ่านเทคโนโลยี ADSL มากกว่า) ซึ่งส่งผลกระทบต่อการใช้งานของผู้ใช้งานส่วนที่เหลือ ทำให้ประสิทธิภาพการใช้งาน 3G “ทั้งระบบ” ลดลง รวมถึงความเร็วในการใช้งานลดลงด้วย

ดังนั้น Fair Usage Policy จึงมีประโยชน์ และสร้างความเป็นธรรมกับผู้ใช้งานทุกคน ผู้ให้บริการสามารถจัดสรรแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตที่หลากหลาย ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถเลือกสมัครแพ็กเกจให้เหมาะสมกับการใช้งานของตัวเอง โดยไม่ต้องจ่ายสูงเท่ากับผู้ที่ใช้งานปริมาณมากๆ

ที่มา – ผู้จัดการออนไลน์


ส่งต่อเรื่องนี้ให้เพื่อน!